วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567 03:18 น.

การศึกษา

พระพรหมบัณฑิตเผยอานิสงส์บูชาพระเขี้ยวแก้ว เสมือนได้กราบพระพุทธเจ้าโดยตรง

วันเสาร์ ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 11.18 น.

พระพรหมบัณฑิตเผยอานิสงส์บูชาพระเขี้ยวแก้ว เสมือนได้กราบพระพุทธเจ้าโดยตรง  ถือเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งของพุทธศาสนิกชน พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมสักการะที่จะอัญเชิญมาจากประเทศจีนในวันที่ 4 ธันวาคมนี้  

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567   การพิธีอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานชั่วคราวในประเทศไทย โดยถือเป็นวาระพิเศษเนื่องในโอกาส ครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นโอกาสสำคัญที่พุทธศาสนิกชนไทยจะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกนั้น

พระพรหมบัณฑิต ในฐานะหัวหน้าคณะสงฆ์ไทยที่ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ได้กล่าวว่า พระเขี้ยวแก้วจากวัดหลิงกวงนี้เป็น 1 ใน 2 พระบรมสารีริกธาตุที่มีอยู่บนโลกมนุษย์ตามตำนาน และการสักการะพระบรมสารีริกธาตุเสมือนการได้กราบพระพุทธองค์โดยตรง ซึ่งเป็นอานิสงส์อันยิ่งใหญ่

สำหรับการอัญเชิญในครั้งนี้ มีคณะผู้แทนรัฐบาลไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และพระเถรานุเถระจากประเทศไทยจำนวน 10 รูป โดยจะมีการลงนามความร่วมมือระหว่างไทย-จีนในวันที่ 3 ธันวาคม และการเจริญพระพุทธมนต์ร่วมกันในวันที่ 4 ธันวาคม ก่อนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมายังประเทศไทยและประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ภายในงานยังจัดนิทรรศการแบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่  การเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพุทธประวัติ ประวัติและความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ ความสำคัญของพระเขี้ยวแก้ว นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ความสัมพันธ์ไทย-จีน ประชาชนที่มาร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุสามารถเยี่ยมชมความรู้และประวัติศาสตร์ในนิทรรศการนี้ได้เช่นกัน.
 

หน้าแรก » การศึกษา