“ศุภมาส” ชี้ อว. แก้ปัญหามหาวิทยาลัยให้วีซ่าต่างชาติแอบลักลอบเข้ามาทำงานในไทยต่อเนื่อง เผยสัปดาห์หน้าจะมีการแก้กฎหมายหลายฉบับ เอาผิดหน่วยงาน 

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วย รมว.กระทรวง อว. และ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. รับหนังสือร้องเรียนจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และนายเอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พรรคประชาชน เรื่อง ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งหามาตรการแก้ไขและป้องกัน กรณีที่มีมหาวิทยาลัยบางแห่งให้วีซ่านักศึกษาแก่ชาวต่างชาติ เพื่อลักลอบเข้ามาประกอบวิชาชีพวิศวกรรม หรือประกอบอาชีพอื่นใดภายในประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต
 
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. ได้เข้าไปติดตาม ตรวจสอบและเฝ้าระวังในการที่มีมหาวิทยาลัยบางแห่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องการให้คนต่างชาติมาสวมวีซ่านักศึกษาเพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง แต่อาจไม่ได้มีการให้ข่าวเพราะอาจทำให้มหาวิทยาลัยที่เราเฝ้าจับตารู้ตัว และไหวตัวทัน ทำให้ยากต่อการเข้าถึงหลักฐาน อีกทั้งข้อกฎหมายในเวลานี้ก็ยังไม่เอื้ออำนวยให้กระทรวง อว. มีอำนาจเข้าไปจัดการมหาวิทยาลัยที่กระทำผิดได้ แต่ในสัปดาห์หน้าจะมีกฎหมายหลายฉบับที่ได้รับการปรับแก้เพื่อให้เราสามารถดำเนินการได้

อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ สส.วิโรจน์ ที่เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสสังคม มีประชาชนให้ความสนใจและจับตาดู ที่ผ่านมา มีหลายมหาวิทยาลัยที่กระทำผิดหรือเป็นปัญหากระทรวง อว. ก็ได้เข้าไปดำเนินการตามมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงบ่ายวันนี้ ตนและผู้บริหารกระทรวง อว. จะร่วมประชุมกับผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และผู้บังคับบัญชาระดับสูง สตม. เพื่อร่วมกันออกมาตรการต่างๆ ที่จะสกัดกั้นผู้กระทำผิด

ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ น.ส.ศุภมาส ที่ได้ดำเนินการตรวจสอบทันทีหลังจากทราบข่าวนี้เพียง 1 วัน การกระทำของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มี 2 รูปแบบ มีทั้งมหาวิทยาลัยที่กระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะมีเอเจนซี่พาต่างชาติเข้ามาศึกษา พอเข้ามาได้รับวีซ่านักศึกษาก็หายไป และก็ทางมหาวิทยาลัยเองก็ยังไม่รู้ว่าจะมีผลในทางร้ายหรือทางลบมาถึงขนาดนี้ ทำให้สถานภาพนักศึกษาก็สิ้นไปตามอายุโดยไม่ได้ประสานแจ้งทาง ตม. เพื่อเพิกถอนวีซ่า และอีกหนึ่งกรณีเรียกว่าเจตนาเป็นช่องทางในการนำเข้าคนต่างชาติเข้ามาทำงานโดยใช้วีซ่านักศึกษา คือโทษก็คือเจตนา ทางกระทรวง อว. ก็คงจะมีหลักฐานแต่ยังเปิดเผยไม่ได้เพื่อไม่ให้การเข้าถึงหลักฐานต่าง ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก