"ดร.มหานิยม" ลงพื้นที่ชาวบ้าน-คณะสงฆ์ร้องเรียนขอจดทะเบียนวัดของสำนักสงฆ์ทุ่งแสงธรรม ลั่นเตรียมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสัปดาห์นี้ หลังยื่นเรื่องขอตั้งวัดตั้งแต่ปี2535 ชาวบ้านเตรียมเฮหลังรอคอยมานานกว่า 30 ปี 

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568  ณ ที่พักสงฆ์ทุ่งแสงธรรม (ดอนตาไกร์) บ้านใหม่นายอ หมู่ที่ 13 ตำบลงิ้วด่อน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร  "ดร.นิยม เวชกามา" หรือ "ดร.มหานิยม" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต. พร้อมด้วย "นายเรืองสุวรรณ โยวะ" ที่ปรึกษาประจำตัว ดร.นิยม เวชกามาร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบตามการร้องเรียนของ "นายสุริยะ รัตนพันธ์" ผู้ใหญ่บ้านนายอหมู่ 13  และ "นายทัศคร ศรีวาโสม" สมาชิกเทศบาล(สท.)ตำบลงิ้วด่อน  เขต 2 พร้อมชาวบ้านใหม่นายอ และเข้ากราบ "พระกิตติพล กิติญาโณ" พระผู้ดูแลที่พักสงฆ์ทุ่งแสงธรรม โดยมีพระสงฆ์ในปกครองจำนวน 4 รูป

 ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทางชาวบ้าน โดยการนำของ นายสุระชัย รัตนพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านใหม่นายอ หมู่ 13 มีความประสงค์ร่วมกันของคนในชุมชนผ่านการทำประชาคมหมู่บ้าน ต้องการจัดสร้างขออนุญาตหน่วยงานราชการจัดสร้างวัดบนที่ดินทางราชการกรมป่าไม้บางส่วนที่คนในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ได้  และมีที่ดินของ "นายโสภิต นันแพง" และ "นายรักชาติ ทิพจร" ที่จะร่วมถวายที่ดินติดกับพื้นที่จะก่อสร้างวัดเพิ่มอีกเพื่อใช้เป็นสถานที่สาธารณประโยชน์ของคนในชุมชนใช้ร่วมกันรวมทั้งสิ้น 12 ไร่เศษ และได้ส่งหนังสือเพื่อขอให้ดำเนินการผ่าน "ท่านพระครูสุธรรมประยุต" เจ้าคณะตำบลงงิ้วด่อน โดยมีรายละเอียดว่า

เนื่องด้วยที่พักสงฆ์ทุ่งแสงธรรม(ดอนตาไกร์) บ้านใหม่นายอ ตำบลงิ้วด่อน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ได้มีการดำเนินการจัดทำโครงการสร้างวัดบนพื้นที่ราชการกรมป่าไม้เพื่อขอจัดตั้งวัดให้ถูกต้องตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติเพื่อให้ที่พักสงฆ์ปัจจุบันยกฐานะให้เป็นวัดบัดนี้ที่พักสงฆ์ทุ่งแสงธรรม(ดอนตาไกร์)บ้านใหม่นายอ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการและรวบรวมเอกสารที่จะนำเข้าสู่พิจารณาจัดตั้งวัดเพื่อให้เจ้าคณะตำบลงิ้วด่อน เขต 1 ได้พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว

หลักการและเหตุผลโครงการสร้างวัดบนพื้นที่ราชการกรมป่าไม้ กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างวัดทุ่งแสงธรรม(ดอนตาไกร์)บ้านใหม่นายอ ตำบลงิ้วด่อน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เพื่อยกระดับสถานะให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสถานที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและส่งเสริมให้มีศาสนาพุทธในทางด้านการปกครอง
 อีกศาสนาพุทธยังถือเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาหลายร้อยปีเป็นสถานที่สร้างสติปัญญาศีลธรรมและอบรมสั่งสอนเยาวชนและชาวพุทธทั่วไป จึงมีสถาบันศาสนาโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติ สืบเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน
 
อีกประการคือ ชาวบ้านใหม่นายอ ตำบลจิ้วด่อน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงมีความประสงค์ดำเนินการก่อสร้าง ที่พักสงฆ์ในเขตป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ทั้งนี้ชาวบ้านใหม่นายอได้ร่วมกันเริ่มก่อสร้าง ศาลาการเปรียญเสนาสนะต่างฯ สำหรับเป็นที่พักจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ มีความมั่นคงถาวร และมีพระภิกษุ สามเณร อยู่จำพรรษาเป็นประจำมี อุบาสกอุบาสิกา รักษาศีลและปฏิบัติธรรม ในวันพระและวันสำคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สืบถึงปัจจุบัน
 และมีวัตถุประสงค์

1.เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ที่มาจากที่ต่างๆได้มาปฏิบัติธรรม
2.เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์ตามประเพณีอันดีงาม
3.เพื่อให้เป็นแหล่งเผยแพร่หลักธรรมและคำสั่งสอนทางศาสนา
4.เพื่อให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติบำไม้และขยายพรรณไม้ให้ร่มรื่นยื่งขึ้น
5.เพื่อคงความเป็นสถานที่ฌาปนกิจของคนในชุมชนให้เกิดสังเวชและปลงสังขาร
6.เพื่อส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และ ขนนบธรรมเนียม อันดีงาม
7.เพื่อส่งเสริมประชาชนเข้ามาศึกษาและปฏิบัติตนตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา

ด้าน ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า ที่พักสงฆ์ทุ่งแสงธรรมได้มีการก่อสร้างมาแล้วตั้งแต่ปี 2535 จนปัจจุบัน ผ่านมา 33 ปี ยังไม่สามารถจดทะเบียนเป็นวัดได้  ตนจึงประสานกับ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดสกลนคร ให้เข้ามาตรวจสอบทันทีในสัปดาห์นี้ โดยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเอกสารและแนะนำขั้นตอนต่างๆแก่ตัวแทนชาวบ้านให้เร่งดำเนินการในทันที  เพราะจากสภาพพื้นที่ถือว่ามีความพร้อมครบทุกอย่าง ทั้งศาลาการเปรียญ กุฏิ โรงฉัน โรงครัว หอพระ และเมรุเผาศพ 

 "ผมเองลงพื้นที่พูดคุยและแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านให้ทราบแล้ว และยืนยันสามารถขออนุญาตจัดตั้งวัดได้ทันทีในปีนี้หลังรอคอยมายาวนาน เพราะรัฐบาลโดยการนำของ"นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" ให้ความสำคัญด้านพระพุทธศาสนามาก โดย "รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล" รมต.ประจำสำนักนายกฯ และผมเองมีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และดูแลปัญหาด้านต่างๆของคณะสงฆ์"

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของ ดร.มหานิยม สร้างความพอใจและดีใจเป็นอย่างมากแก่ชาวบ้านนายอใหม่ และพระสงฆ์ ต่างขอบคุณ ดร.มหานิยม  ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้และเป็นผู้ประสานงานหน่วยงานรัฐให้ทันที