วันอังคาร ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 07:37 น.

การศึกษา

บทบาทสันติศึกษา มจร กับปัญหาปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 12.08 น.

วิเคราะห์บทบาทสันติศึกษา มจร กับปัญหาปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยดร.สำราญ สมพงษ์ นักข่าวอาวุโส นักวิชาการด้านพุทธสันติวิธีสื่สารมวลชน(AI)  

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์บทบาทของ “สันติศึกษา” ในบริบทของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) โดยเฉพาะภายใต้แนวทางการจัดการศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งมีการปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่ เช่น การเรียนการสอนแบบ Active Learning การใช้ AI และการมุ่งเน้นผลลัพธ์ทางวิชาการระดับนานาชาติ เพื่อตอบสนองต่อความขัดแย้งร่วมสมัยในภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ต้องการองค์ความรู้เชิงลึกในการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน สันติศึกษาในบริบทของ มจร จึงเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการบูรณาการระหว่างพุทธธรรม ความรู้ทางสังคม และนวัตกรรมการศึกษาเพื่อการคลี่คลายความขัดแย้งในเชิงโครงสร้าง วัฒนธรรม และการเมืองระหว่างประเทศ

1. บทนำ
ปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่พิพาททางประวัติศาสตร์ เช่น บริเวณปราสาทพระวิหารและภูมะเขือ เป็นความขัดแย้งที่มีรากเหง้าทั้งทางภูมิรัฐศาสตร์และอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนสองชาติ ซึ่งไม่สามารถคลี่คลายได้ด้วยมาตรการทางทหารหรือการทูตอย่างเดียว การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการทางปัญญา จริยธรรม และการศึกษา

ในบริบทนี้ “สันติศึกษา” โดยเฉพาะของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) มีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวทางการศึกษาเพื่อสันติภาพ โดยผสมผสานพุทธปัญญาเข้ากับกระบวนการทางวิชาการสมัยใหม่ เพื่อผลิตบัณฑิตที่สามารถเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในเชิงรากฐานได้

2. แนวคิดและปรัชญาทางการศึกษาของ มจร
พระปัญญาวัชรบัณฑิต, รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจร ได้แสดงวิสัยทัศน์เชิงระบบของบัณฑิตวิทยาลัยไว้อย่างลึกซึ้ง โดยชี้ให้เห็นถึง:

การศึกษาที่มุ่งความเป็นเลิศเฉพาะทาง: การเปรียบเปรยว่า ป.ตรี เหมือนเห็นป่าทั้งป่า แต่ ป.โท–ป.เอก คือการเข้าใจเฉพาะต้นไม้บางต้นอย่างลึกซึ้ง ชี้ให้เห็นถึงแนวคิด “เอตทัคคะ” หรือความเป็นเลิศเฉพาะทางที่เป็นรากฐานสำคัญของสันติศึกษา

หลัก "สุจิปุลิ": คือ ฟัง คิด ถาม และเขียน ซึ่งล้วนเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่นำไปสู่การวิเคราะห์ความขัดแย้งอย่างมีวิจารณญาณ และการสื่อสารเพื่อสันติภาพ

Active Learning กับการเรียนรู้ตลอดชีวิต: แสดงถึงความเข้าใจว่าความขัดแย้งในโลกสมัยใหม่ไม่สามารถใช้ความรู้แบบ “ท่องจำ” หรือ Passive ได้อีกต่อไป

แนวทาง OBE (Outcome-Based Education): ที่วัดผลจากผลลัพธ์ทางพฤติกรรมและการปฏิบัติจริงของผู้เรียน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการฝึกอบรมผู้ไกล่เกลี่ยและนักสันติภาพ

3. สันติศึกษา มจร กับปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา
3.1 การเข้าใจความขัดแย้งเชิงลึก
การเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาโดยเน้น "CLO–PLO–ILO" ช่วยให้นิสิตสามารถวิเคราะห์รากเหง้าของความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชาได้ในหลายมิติ เช่น
ประวัติศาสตร์อาณานิคม
การตีความเส้นเขตแดน
ความทรงจำร่วมทางวัฒนธรรมและศาสนา
ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เช่น ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรหรือสิทธิมนุษยชน

3.2 สร้างนักสันติภาพเชิงปฏิบัติ
นิสิตป.โท–เอก ที่เรียนรู้แบบ Active Learning จะมีทักษะในการทำงานภาคสนาม เช่น การไกล่เกลี่ยในชุมชน การเจรจาข้ามพรมแดน หรือการจัดเวทีสาธารณะเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มคน

3.3 สันติศึกษาเชิงพุทธ
มจร ส่งเสริมการบูรณาการหลักธรรม เช่น อิทธิบาท 4, พรหมวิหาร 4, และ อริยสัจ 4 เข้ากับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยใช้หลัก “เมตตา–กรุณา–มุทิตา–อุเบกขา” เป็นฐานของกระบวนการไกล่เกลี่ยอย่างอหิงสา

3.4 ผลักดันการวิจัยเพื่อสันติภาพ
การเรียนระดับบัณฑิตศึกษาที่มุ่งตีพิมพ์บทความในระดับนานาชาติ ทำให้นิสิตมีความสามารถในการเสนอแนวทางสันติภาพที่สามารถเทียบเคียงได้กับงานวิจัยของต่างประเทศ ซึ่งสามารถส่งผลต่อเชิงนโยบาย เช่น การสร้างกลไกชายแดนเพื่อการสื่อสารระหว่างชาวบ้านสองประเทศ

4. ความท้าทายและข้อเสนอแนะ
การพัฒนาศักยภาพผู้สอนและนิสิตด้านความขัดแย้งร่วมสมัย: เช่น สงครามข้อมูล ข่าวปลอม หรืออคติทางชาติพันธุ์
การบูรณาการเทคโนโลยี AI กับสันติศึกษา: เพื่อใช้ในการวิจัย การจำลองสถานการณ์ความขัดแย้ง หรือการวิเคราะห์การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม
ส่งเสริมการลงพื้นที่ชายแดน: ให้นิสิตได้ฝึกภาคสนามจริงในพื้นที่ขัดแย้ง เพื่อผสมผสานระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติ
สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันสันติภาพในอาเซียน: เช่น สถาบันจากลาว เวียดนาม และกัมพูชา เพื่อการเจรจาและวิจัยร่วมกันในระยะยาว

5. สรุป
สันติศึกษาในบริบทของ มจร มิใช่เพียงการศึกษาทางวิชาการ แต่เป็นการฝึกฝนทางจิตใจ ทักษะการสื่อสาร และความสามารถเชิงวิเคราะห์เพื่อสร้างนักสันติภาพมืออาชีพ ที่สามารถเข้าไปมีบทบาทจริงในการคลี่คลายความขัดแย้งในภูมิภาค เช่น กรณีปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา โดยใช้ความรู้เชิงพุทธศาสตร์ควบคู่กับเครื่องมือสมัยใหม่อย่าง AI และ Active Learning ในการแก้ปัญหาทั้งระดับบุคคล ชุมชน และนโยบายระหว่างประเทศได้อย่างสอดคล้องกับโลกยุคใหม่

หน้าแรก » การศึกษา