วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568 06:10 น.

การศึกษา

ยุววิจัย “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ที่โรงเรียนบ้านกองม่องทะกาญจนบุรี 

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 10.17 น.

การพัฒนาการเรียนรู้ของเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดารเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องทั้งกับการสร้างโอกาสทางการศึกษาและการธำรงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ แนวพระราชดำริ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง”

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และการสืบสานโดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผ่านแผนงานของมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นกรอบคิดที่บูรณาการ “การศึกษา–สิ่งแวดล้อม–ชุมชน” เข้าด้วยกัน

กิจกรรม “ยุววิจัย ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เชิงปฏิบัติ โดยใช้พื้นที่ธรรมชาติเป็นห้องเรียน สอดคล้องกับกระบวนการ Active Learning และการวิจัยแบบมีส่วนร่วมตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 ที่โรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 เป็นประธานเปิดกิจกรรม "ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง" ภายใต้แผนงานมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งผู้บริหารการศึกษา เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

แนวคิดพื้นฐาน

ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง
ปลูกป่าไม้ใช้สอย, ป่าไม้กินได้ และป่าไม้เศรษฐกิจ
ได้ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ใช้สอย, อาหาร, รายได้ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ยุววิจัย (Youth Research)
แนวคิดให้เยาวชนเรียนรู้ผ่านการตั้งคำถาม ทดลอง ลงมือทำ และนำเสนอผล
เน้นการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการมีส่วนร่วมของชุมชน

วิธีการยุววิจัยในโครงการ
Active Learning

นักเรียนชั้น ป.4–6 จำนวน 64 คน ได้เข้าค่าย 3 วัน 2 คืน (22–24 ส.ค. 2568)
ใช้ “ห้องเรียนธรรมชาติ” เชื่อมโยงสิ่งแวดล้อมกับวิถีชีวิตชุมชน
การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ
นักเรียนร่วมกันคิด วางแผน และปฏิบัติจริง เช่น การจัดทำแปลงเรียนรู้ การสำรวจพันธุ์ไม้ และการบันทึกข้อมูล
ฝึกทักษะการสังเกตและเก็บข้อมูลสิ่งแวดล้อม

การทำโครงงานวิจัยชุมชน
หลังจบค่าย นักเรียนแต่ละกลุ่มนำความรู้กลับไปทำโครงงานด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน
มีการติดตามผลและการนำเสนอในกิจกรรมปิดค่ายช่วงปลายปีการศึกษา
การสนับสนุนจากหลายภาคส่วน
ภาครัฐ, โรงเรียน, ผู้ปกครอง และชุมชนร่วมมือกัน
สร้างเครือข่ายการเรียนรู้และความยั่งยืนของโครงการ

การวิเคราะห์ผล
ด้านการศึกษา : เยาวชนได้ฝึกทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหา และการเรียนรู้แบบบูรณาการ (STEM + ศาสนาและวัฒนธรรมชุมชน)
ด้านสิ่งแวดล้อม : สร้างความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ป่า และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ด้านสังคมและชุมชน : เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชน สนับสนุนให้เยาวชนมีบทบาทในการพัฒนาในพื้นที่ห่างไกล
ด้านคุณธรรมและค่านิยม : เสริมสร้างจิตสำนึกเรื่องการพึ่งตนเอง ความพอเพียง และความกตัญญูต่อแผ่นดิน

ข้อเสนอแนะ
พัฒนาหลักสูตรยุววิจัยให้ต่อเนื่อง โดยบูรณาการในแผนการเรียนการสอนของโรงเรียน
เสริมทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้เยาวชนสามารถเก็บข้อมูลและนำเสนอผลวิจัยได้อย่างทันสมัย
ขยายผลไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและจังหวัดใกล้เคียง
สร้างระบบติดตามผลระยะยาว เพื่อวัดผลการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน

ดังนั้น โครงการ “ยุววิจัย ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” เป็นรูปแบบการศึกษาที่ผสมผสานพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ป่าไม้เข้ากับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเยาวชน ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติในห้องเรียนธรรมชาติ นักเรียนไม่เพียงแต่ได้รับความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม หากยังได้ฝึกการคิดเชิงวิเคราะห์และความร่วมมือกับชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางการศึกษาเชิงบูรณาการที่สามารถพัฒนาเป็น “โมเดลการเรียนรู้เพื่อความยั่งยืน” ของสังคมไทยได้ในอนาคต

ที่มาข้อมูล -  https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1373725/?bid=1

หน้าแรก » การศึกษา