วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568 02:36 น.

การศึกษา

"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานโอวาทแก่ "พระปริยัติเทศก์"  ขอให้อดทนต่อคำถามการมีอยู่ของพระสงฆ์ 

วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568, 12.46 น.

"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานโอวาทแก่ "พระปริยัติเทศก์"  ขอให้อดทนต่อ ความท้าทายครั้งใหญ่ ผู้คนจำนวนมากพากันเพ่งโทษ ติเตียนและตั้งคำถามต่อการมีอยู่ของพระสงฆ์ 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568  ที่หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ปฏิบัติศาสนกิจแทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์ โดยมี พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ พระสังฆาธิการ พร้อมด้วย ผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนา และส่วนงานที่เกี่ยวข้องถวายการต้อนรับ

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้เชิญพระโอวาท สมเด็จพระสังฆราช กล่าวแก่ผู้เข้าร่วมประชุมตอนหนึ่งว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้เชิญพระโอวาท มาในการเปิด ประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องระดับประเทศ ประจำปี 2568 ดังต่อไปนี้ 

“ขออนุโมทนาสาธุการที่ท่านทั้งหลายมาร่วมประชุมสัมมนาพระปริย์ตินิเทศก์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องระดับประเทศด้วยสามัคคีธรรม และอปริหานิยธรรม ในวันนี้ขออนุโมทนาท่านผู้จัดโครงการและท่านผู้ร่วมโครงการทุกรูป ซึ่งนับเป็นผู้ยังประโยชน์แก่คณะสงฆ์อย่างยิ่ง ขออนุโมทนาบุญ ในการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและบุคลากรผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ทำหน้าที่เกื้อกูล ภารกิจนี้มาเป็นอย่างดี ท่านทั้งหลายในฐานะพระสังฆาธิการในฐานะพระบริยัตินิเทศก์และในฐานะบรรพชิตในพระพุทธศาสนา ย่อมเห็นตระหนักอยู่แล้วว่าสถานการณ์คณะสงฆ์และกิจการพระพุทธศาสนาในปัจจุบันนี้กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ผู้คนจำนวนมากพากันเพ่งโทษ ติเตียนและตั้งคำถามต่อการมีอยู่ของพระสงฆ์เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและหลายต่อหลายครั้งก็เป็นไปอย่างรุนแรงเกินจริง เพราะคนคะนองมักมุ่งมองแต่พฤติกรรมของชนหมู่น้อย ที่เป็นรอยด่างดำ จนตีตราบาปอย่างเหมารวม จึงว่าร้ายชนหมู่ใหญ่ ที่มิได้กระทำความผิดไปด้วยเกิดภาวะะบั่นทอนกำลังใจของบรรดาพระภิกษุสามเณร และบุคลากรในกิจการพระพุทธศาสนาที่สู้อุตส่าห์ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบและปฏิบัติชื่อตรงตลอดมา

“ในนามคณะสงฆ์ขอถวายกำลังใจให้ทุกท่านจงอดทนและพากเพียร บำเพ็ญกรณียกิจเพื่อจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมและการปริยัตินิเทศก์ต่อไป อย่าได้ย่อหย่อนหรือหยุดยั้ง เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่นและประโยชน์ทั้ง สองสถานจักได้สำเร็จ สมดั่งพระพุทธาณัติ ที่สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงมอบหมายให้พระสงฆ์ต้องทำหน้าที่เผยแผ่พระสัทธรรมเพื่อเกื้อกูลมหาชน ชาวโลกให้ได้อย่างกว้างขวางที่สุด  ตราบใดที่ท่านยังคงเพียรหมั่น,และมีใจมันคงต่อหน้าที่ของพุทธบริษัทต่อไป โดยไม่หวันไหว รวนเร หรือท้อถอย ตราบนั้นท่านยอมได้ชื่อว่าเป็นสมณะที่ดี, เป็นอุบาสกอุบาสิกาตัวอย่าง เป็นผู้กระทำสักการบูชาพระรัตนตรัยด้วยการกระทำ นับเป็น “ปฏิบัติบูชา”ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ และขอให้แน่ใจเถิดว่า การบูชาพระรัตนตรัยที่ท่านกระทำแล้วด้วยศรัทธา ย่อมมีผลและจักเป็นอิฏฐผลอันพึงปรารถนาด้วย สมด้วยพระพุทธานุศาสนีที่ว่า ทานที่ให้แล้วมีผล ยัญที่บูชาแล้ว มีผล” เมื่อท่านเป็นสัมมาทิฐิ จนมั่นใจแน่วแน่แล้วว่า ผลวิบากของกรรมดี หรือกรรมชั่ว ย่อมมีอยู่จริง จึงอดทนและเพียรพยุายามปฏิบัติหน้าที่ของท่านเทั้งหลายด้วยการคิดดี การพูดดี และการกระทำดี อย่างสมํ่าเสมอท่านย่อม ทำหน้าที่พระปริยัตินิเทศก์ได้อย่างอิ่มเอิบเบิกบานสมฐานะ “บัณฑิต” ผู้เฉลียวฉลาดมีความสามารถสมควรแก่การงานตามบทบาทหน้าที่ของตนทำประโยชน์ให้สำเร็จได้..”

หน้าแรก » การศึกษา