วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:51 น.

การตลาด

อ.ต.ก. ลุยจัดงาน “Thailand Intertrade” เวทีผลักดันซอฟท์พาวเวอร์สินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก ควงแขนเกษตรกรไทยโร้ดโชว์ทั้งในและนอกประเทศ

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.09 น.

อ.ต.ก. ลุยจัดงาน “Thailand Intertrade” เวทีผลักดันซอฟท์พาวเวอร์สินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก ควงแขนเกษตรกรไทยโร้ดโชว์ทั้งในและนอกประเทศ

 

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เดินหน้าคิกออฟ โครงการ "Thailand Intertrade” (ไทยแลนด์ อินเตอร์เทรด) เพื่อสร้างโอกาสและความมั่งคั่งให้กับเกษตรกรไทย พร้อมยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงก้าวไกลสู่ตลาดโลก จัดงานแฟร์โชว์นวัตกรรม Smart Farming (สมาร์ทฟาร์มมิ่ง) โดยนำองค์ความรู้จากงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาพัฒนาผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรสู่ระดับสากลภายใต้แนวคิด BCG Economy Model (Bio Economy, Circular Economy, Green Economy)  ซึ่งประกอบด้วย Bio Economy การส่งเสริมการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเพิ่มมูลค่าผลผลิต Circular Economy การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน และGreen Economy ผลักดันการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลและยั่งยืนและจำหน่ายสินค้าเกษตรไทยใน 4 ตลาดศักยภาพทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น ออสเตรีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และจอร์แดน รวมทั้งประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยและต่างประเทศได้เลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพสูงมาตฐานส่งออกตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 นี้ มั่นใจสามารถสร้างความได้เปรียบทางการตลาดในระดับโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม

 


นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า อ.ต.ก. มีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่เป็น Strategic Partner เชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้ซื้อ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค โดยครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ พร้อมผลักดันการเติบโตของภาคเกษตรกรรมไทยด้วยวิสัยทัศน์ที่ทันสมัย มีเป้าหมายชัดเจนในการวางรากฐานการค้าที่เข้มแข็งและยั่งยืนในระดับโลกผ่านแผนงานและกิจกรรมทางการตลาดอันหลากหลายรวมทั้งงาน Thailand Intertrade ซึ่งถือเป็น Roadshow (โร้ดโชว์)เชิงกลยุทธ์ที่ อ.ต.ก. สร้างขึ้นเพื่อสร้างเวทีให้เกษตรกรและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมทั้งเปิดตลาดสินค้าใหม่ ๆ รวมทั้งจับคู่ธุรกิจให้กับเกษตรกร เพื่อสร้างและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทยอย่างยั่งยืนต่อไป โดย อ.ต.ก. มุ่งหวังว่าการดำเนินโครงการ "Thailand Intertrade" จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่มั่งคั่งให้กับเกษตรกรไทย พร้อมผลักดันสินค้าเกษตรเมืองร้อนของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกอย่างแข็งแกร่ง


“อ.ต.ก. มีพันธกิจในการสร้างและส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) โดยส่งเสริมการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยการ

พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) โดยการผลักดันการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ดังนั้น อ.ต.ก. จึงไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่จำหน่ายสินค้า แต่เราคือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เคียงข้างเกษตรกรไทยในการพัฒนามาตรฐาน สร้างรายได้ และเปิดตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ 


สำหรับการจัดงาน Thailand Intertrade ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนของไทยสู่ตลาดโลก อ.ต.ก. มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรมไทยตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ" นายปณิธาน มีไชยโย กล่าวเสริม


งาน Thailand Intertrade 2025 นอกจากจะเป็นกิจกรรมเชิงเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างเวทีให้เกษตรกรไทยและผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพสูงก้าวไกลสู่ตลาดโลกแล้ว ยังมุ่งหวังในการเป็นเวทีจับคู่ธุรกิจ (B2B) และขยายสู่ผู้บริโภค (B2C) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีการนำกลยุทธ์การตลาดแบบ Data-Driven Marketing ผสาน Local Insight ในแต่ละประเทศเป้าหมายมาใช้ เพื่อสร้างความแม่นยำในการทำตลาด พร้อมเจาะลึกความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเน้นสินค้าคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ และรูปแบบการจำหน่ายที่ทันสมัย เช่น อีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เกษตรกรไทยและสินค้าเกษตรของงประเทศไทยด้วย


“อ.ต.ก. ให้ความสำคัญกับการทำตลาดอย่างครบวงจร ตั้งแต่การสนับสนุนองค์ความรู้ การสร้างแบรนด์ การใช้ข้อมูลวิเคราะห์ตลาด ไปจนถึงการขยายช่องทางจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เกษตรกรไทยสามารถยืนหยัดแข่งขันได้อย่างมั่นคงในตลาดโลก โดยคาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินและรายได้ให้แก่เกษตกรที่เข้าร่วมโครงการ” นายปณิธาน กล่าวปิดท้าย


สำหรับงาน Thailand Intertrade 2025 เริ่มจัดที่ประเทศออสเตรียเป็นที่แรก ระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม ตามด้วยประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 22-22 พฤษภาคม ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายน ประเทศจอร์แดน ระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม 2568 และประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม ณ ตลาด อ.ต.ก. จตุจักร โดยมีเกษตรกรจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ คาดสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดทั้งในและต่างประเทศ

หน้าแรก » การตลาด