วันอังคาร ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 11:19 น.

การเมือง

"มัลลิกา"เตือน"บิ๊กตู่"อยากพังใช้ม.44อุ้มค่ายมือถือเลย

วันพุธ ที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2561, 12.46 น.
tags : กสทช.

"มัลลิกา"เตือน"บิ๊กตู่"อยากพังใช้ม.44อุ้มค่ายมือถือเลย

 

"มัลลิกา"เตือนนายกฯและคสช.หยุดคิดใช้มาตรา 44 อุ้มเศรษฐีค่ายมือถือ แต่ถ้าอยากจะพังเร็วก็ใช้เลย ติงหน้าที่รัฐบาล คือ ทวงคืนค่าเสียหายท้ายคำพิพากษาศาลคดีโทรคมนาคมไม่ใช่ไปอุ้มเขาอีก 


วันที่ 4 เมษายน 2561 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.com แถลงว่า จากความพยายามของฝ่ายกฎหมายรัฐบาล และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หาช่องทางใช้อำนาจพิเศษมาตรา44 ยืดจ่ายค่างวดคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ 5 ปี ของบริษัทโทรคมนาคม 2 รายนั้น 

 

นางมัลลิกา กล่าวว่า ไม่เพียงจะเป็นการอุ้มเอกชน หรือ เศรษฐีซึ่งเป็นบริษัทที่รับสัมปทาน และเก็บประโยชน์จากประชาชน หรือผู้ใช้บริการไปแล้วเท่านั้น แต่เอกชนรายหนึ่งนั้นยังเป็นบริษัทที่ต่างชาติถือหุ้นเป็นเจ้ากิจการด้วย เหตุใดฝ่ายกฎหมายที่ชงเรื่องคือทั้งนักกฎหมายใกล้ตัวนายกรัฐมนตรี กับ ทีม กสทช. จึงนำสิ่งที่ตัวเองบริหารจัดการผิดพลาดและเป็นเรื่องเสี่ยงคุกตารางมายัดใส่มือนายกรัฐมนตรี และ คณะ คสช.

 

"การทำธุรกิจมีความเสี่ยงดังนั้นความเสี่ยงจึงควรเป็นภาระของบริษัทเอกชนเองไม่ใช่ภาระหน้าที่ของราชการ ซึ่งถ้าใช้หลักเกณฑ์นี้ทำไมไม่ใช้มาตรา44 เยียวยาให้กับความเสี่ยงของชาวนา เกษตรกร ที่ปลูกยาง ปาล์ม ปลูกข้าว ปลูกมันบ้าง ดังนั้นหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องอย่าเอาแต่ชงเรื่องช่วยเหลือคนรวยไม่ช่วยคนจน ถ้า คสช. กับรัฐบาลนี้อยากจะพังเร็วก็เอามาใช้เลย" นางมัลลิกา กล่าวและว่า 
 

 

วันนี้ความเสียหายของรัฐในคดีโทรคมนาคม ซึ่งส่วนราชการใส่เกียร์ว่างไม่ยอมปฏิบัติงานทวงคืนเงินแผ่นดิน ผลประโยชน์แผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องของวงจรดาวเทียมของประเทศไทย ซึ่งศาลมีคำพิพากษา เมื่อกุมภาพันธ์ 2553 ว่ามีการทุจริตจริงและบริษัททีโอที กับ กระทรวงดิจิตอลฯ ต้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทไทยคม และต้องยิงดาวเทียมขึ้นไปทดแทนตามสัญญา ซึ่งยังไม่ได้ทำและกำลังมีกระบวนการโมเมว่าสิทธิ์ในการใช้วงจรดาวเทียมนั้น รำพึงว่าจะให้เอกชนดูแล ซึ่งสิทธิ์นี้เป็นสิทธิ์ของประเทศชาติไม่ใช่ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

 

ประการต่อมา คดีความเสียหายจากการอนุมัติเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานมือถือ ที่ศาลระบุว่าผู้บริหารต้องชดใช้ครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งนั้นเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัททีโอที เรื่องนี้เป็นคำพิพากษาศาลชัดเจนต้องมีผู้รับผิดชอบความเสียหายนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้หายไปเฉยๆ เงินหลายหมื่นล้านบาทควรทวงกลับมาช่วยสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล ซ่อมถนนหนทางให้คนจนได้ใช้

 

เพราะว่าคำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2553 ระบุให้บริษัทเอกชนนั้นต้องเยียวยาค่าเสียหายให้รัฐรวมทั้งสถานะของวงจรดาวเทียมของประเทศไทยยังเป็นของประเทศชาติไม่ใช่ของเอกชนอย่าปล่อยให้เอกชนมาฮุบเพราะความรู้เท่าไม่ทันหรือเพราะสิ่งใด และดาวเทียมที่จะต้องเอามาทดแทนยังไม่ได้ยิงขึ้นไปตามสัญญา ทั้งสองเรื่องนี้ขอให้รัฐบาลรีบแก้ไขโดยด่วน ประชาชนไม่อยากเห็นกระบวนการ "อภินิหารกฎหมาย" และพฤติกรรม "เหาะเกินลงกา" เกิดขึ้นในประเทศซ้ำซาก
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง