'ปรีชา​พล​'โพสต์สบายดีแต่มีภาระต้องทำ   
ทษช.ลุยหาเสียงสุพรรณ ส่งชิงพื้นที่ทั้ง 4 เขต 
ด้าน'จาตุรนต์' ห่วงสื่อถูกคุกคาม เหตุจัดดีเบตไม่ตรงใจผู้มีอำนาจ

วันที่ 2 มี.ค.2562  ร้อยโท​ปรีชา​พล​ พงษ์​พา​นิช หัวหน้า​พรรค​ไทย​รัก​ษา​ชาติ​  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก preechapol pongpanich ความว่า   "หัวใจ​กับ​ความหวัง" สวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่รักและเคารพทุกๆท่านครับ ห่างหายกันไปนานพอสมควรนะครับ หลายท่านเป็นห่วง ถามถึงตัวผม ผมอยากจะเรียนว่า ผมสบายดีครับ แต่ก็มีภาระหน้าที่ ที่จะต้องทำ 

ผมเองในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ต้องกราบขอบพระคุณ ทุกๆท่านเป็นอย่างสูงครับ ผมขอให้กำลังใจ และส่งกำลังใจไปยังผู้สมัครของเรา รวมไปถึงสมาชิกไทยรักษาชาติทุกๆท่านด้วย เราปรารถนาจะเห็นประเทศไทยก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก เราปรารถนาจะเห็นรอยยิ้ม ความสุขของประชาชน หนทางข้างหน้า แม้จะมีขวากหนาม จะมีอุปสรรคนานานับประการเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าพวกเราร่วมกัน ผมเชื่อว่า เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประชาชนคนไทย และประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคนได้แน่นอนครับ"

ทษช.ลุยสุพรรณ'อ๋อย'ห่วงสื่อถูกคุกคาม

พรรคไทยรักษาชาติ นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียง พร้อมด้วยนายประภัสร์ จงสงวน กรรมการยุทธศาสตร์และนายนิคม ไวยรัชพานิช แกนนำพรรค ลงพื้นที่ตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 4 เขตหาเสียง โดยประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดี

นายจาตุรนต์ เชื่อว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ชาวสุพรรณบุรีจะให้ความสนใจเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาประเทศ แต่ภาพรวมการเลือกตั้งยังน่าเป็นห่วง ในเรื่องความเสรีและเป็นธรรม เนื่องจากมีการใช้อำนาจ คสช.และที่เกี่ยวเนื่อง ดำเนินการกับพรรคการเมืองต่างๆ, ปิดสถานีโทรทัศน์บางช่อง ซึ่งเป็นการละเมิดและจำกัดเสรีภาพสื่อ รวมถึงกรณีล่าสุดที่ช่อง 9 อสมท.ที่ประธานบอร์ดเป็นนายทหาร สั่งปลดพิธีกรชื่อดังหลังจัดรายการดีเบตไม่เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจ ซึ่งล้วนสะท้อนว่าประเทศไทยยังอยู่ใต้การปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย  และหากปล่อยให้เป็นไป สื่อต่างๆอาจเกรงกลัวและผู้มีอำนาจจะได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว 

นายจาตุรนต์ ยืนยันว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจขาดจิตสำนึกประชาธิปไตยและไม่เข้าใจว่าประเทศกำลังจะเดินสู่การเลือกตั้ง และเห็นว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ควรดึงดันที่จะออกกฎหมายใดๆอีก เพราะจะส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติ ต้องรอให้สภาที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินการ และไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่จะกระทบเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างกว้างขวาง ตลอดจนธุรกิจต่างๆทั้งของไทยและต่างประเทศที่จะไม่กล้าลงทุน รวมถึงเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะให้อำนาจเจ้าหน้าที่อย่างล้นหลาม สามารถล้วงข้อมูลธุรกรรมต่างๆได้