วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 22:43 น.

การเมือง

สะพัด! เผด็จการทหารเมียนมาออกหมายจับมิสแกรนด์พม่า

วันอังคาร ที่ 06 เมษายน พ.ศ. 2564, 20.09 น.

สะพัด! เผด็จการทหารเมียนมาออกหมายจับมิสแกรนด์พม่าแล้ว ทางด้าน "ณวัฒน์"ยั นยังเป็นข่าวลือพร้อมดูแลต่อ  ขณะที่ "เจ้ายอดศึก" เตือนกองทัพเตรียมรับมือสงครามกลางเมือง เช่นเดียวกับรัสเซียเตือนแซงก์ชันเมียนมาเสี่ยงจุดสงครามกลางเมือง

วันที่ 6 เม.ย. 2564 เพจ Nampol Kajonpimanmas ได้โพสต์ข้อความว่า "ด่วน! ทางการพม่าออกหมายจับ ฮันเล Miss Grand Myanmar 2020 รวมไปถึงผู้ที่ส่งเธอมาประกวด Miss Grand International 2020 ที่ประเทศไทยด้วย ส่วนครอบครัวของเธอก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ" 

ก่อนหน้านี้เผด็จการทหารเมียนมาออกหมายจับผู้มีชื่อเสียงราว 80 คน ที่รวมถึงดารา, นักร้อง, นายแบบนางแบบ และผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งส่วนใหญ่กำลังหลบซ่อนตัว โดยกล่าวหาพวกเขาว่าเผยแพร่ข้อมูลที่อาจนำไปสู่การขัดขืนคำสั่งในกองทัพ 

"ณวัฒน์"ยันยังเป็นข่าวลือพร้อมดูแลต่อ 

ทางด้านนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผอ.กองประกวดมิสแกรนด์ฯ ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวในการไลฟ์เฟซบุ๊ก ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเป็นทางการจากเมียนมา แต่มีข่าวลือว่าจะใช้กฏหมายข้อนี้ปฏิบัติในเร็ววันนี้ เป็นข่าวลือจากวงในที่เชื่อถือได้

"จากการคาดเดาไวสุดน่าจะออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าทางเมียนมาออกหมายจับฮาน เลย์ เพราะเช็กจากทุกที่แล้ว และ ฮาน เลย์ ก็ช่วยแปลภาษาเมียนมาด้วย วันนี้มีหมายจับดาราเมียนมา 25 คน แต่ไม่มีชื่อฮาน เลย์" 

อย่างไรก็ตาม สำหรับหลายๆ คนที่เป็นห่วงสาวงามจากเมียนมา นายณวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะดูแลฮานเลย์อย่างดี ไม่ต้องห่วง เราจะสู้ เพราะถือว่าเราใช้สิทธิความเป็นมนุษย์ร่วมโลกด้วยกัน หลายคนอาจจะคิดไปถึงว่าถ้าโดนหมายจับจะทำอย่างไร ค่อยคิด รอให้เกิดก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ไม่ต้องคิดให้ซับซ้อน ใครทำดีหรือชั่ว เห็นอยู่แล้ว ไม่ต้องบิดเบือนใดๆ และขอไม่อนุญาตเปิดเผยว่าฮาน เลย์อยู่ที่ไหน
          
นายณวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ตอนนี้เรื่องของฮานเลย์ยังไม่มีผล 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพียงนโยบายที่ทางกองทัพเมียนมา จะจัดการกับคนบันเทิง คาดเดาว่าถ้าเร็วที่สุดก็น่าจะเป็นพรุ่งนี้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าเป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่อาชญากรรม เพราะฉะนั้นเราก็มีข้อกฏหมายที่ต่อสู้ได้

"เจ้ายอดศึก"เตือนกองทัพเตรียมรับมือ สงครามกลางเมือง  

พลเอก เจ้ายอดศึก (Sao Yawd Serk) หัวหน้ากองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ ซึ่งเป็นกองกำลังกบฏในรัฐชานทางภาคตะวันออกของเมียนมา เปิดเผยว่า กบฏ 3 กลุ่มในพื้นที่ทางภาคเหนือของเมียนมา จับมือเป็นพันธมิตร เรียกชื่อกลุ่มว่า พันธมิตร 3 พี่น้อง (Three Brotherhood Alliance) โดยเห็นว่า ถ้ากองทัพเมียนมาไม่หยุดใช้กำลังปราบปรามประชาชนผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ พร้อมทั้งขอให้ชนกลุ่มน้อยทุกลุ่มของเมียนมาจับอาวุธขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองให้ปลอดภัย ขณะเดียวกัน การที่กองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงจะส่งผลให้ผู้ประท้วงบางคนในเมียนมาจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธขึ้นมาของผู้ประท้วง เพื่อปกป้องกลุ่มผู้ประท้วงไม่ให้ถูกทำร้าย
          
พลเอก เจ้ายอดศึก กล่าวว่า การที่ทหารใช้อาวุธปราบปรามประชาชน เท่ากับทหารกำลังเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งฝ่ายกบฏจะไม่ยอมนิ่งเฉย แต่จะทำทุกวิธีทางเพื่อปกป้องประชาชน พร้อมกล่าวถึงทิศทางในอนาคตของเมียนมาว่าไม่สดใสมากนัก ประเทศชาติไม่มีเอกภาพ เกิดปัญหาด้านความมั่นคงหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หลังกองทัพภายใต้การนำของพล.อ.อาวุโส มิ่น อ่องหล่าย ผู้บัญชาทหารสูงสุดของเมียนมา เข้าทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
          
พลเอก เจ้ายอดศึก ตั้งข้อสังเกตว่าในปัจจุบันประชาชนในเมืองต่างๆทั่วประเทศเมียนมา ยังคงเดินหน้าประท้วง การทำรัฐประหาร ยังไม่ยอมแพ้ ขณะที่ฝ่ายพล.อ.อาวุโส มิ่น อ่องหล่าย ในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหารเอง ไม่มีทีท่าจะยอมถอย จึงมีแนวโน้มว่าสงครามกลางเมืองอาจจะเกิดขึ้น ทั้งการเจรจาเพื่อความปรองดองในชาติระหว่างกบฏ 10 กลุ่ม รวมถึงกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ และกลุ่มกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ที่ลงนามสันติภาพกับรัฐบาลในปี 2558 สิ้นสุดลงทันทีหลังการทำรัฐประหาร

รัสเซียเตือนแซงก์ชันเมียนมาเสี่ยงจุดสงครามกลางเมือง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในการประท้วงรูปแบบใหม่เมื่อวันอังคารที่ 6 เมษายน ชาวเมียนมานำสีแดงมาละเลงบนบาทวิถีและใช้ถุงบรรจุสีแดงปาลงถนนในเมืองย่างกุ้ง และเขียนข้อความเช่น เลือดยังไม่แห้ง ป้ายโฆษณาศาลารอรถประจำทางแห่งหนึ่งมีข้อความถึงทหารชั้นผู้น้อยว่า "อย่าฆ่าประชาชนเพียงเพื่อเงินเดือนเล็กน้อยเท่าค่าอาหารสุนัข" 

ที่เมืองพะอันในรัฐกะเหรี่ยง ภาคตะวันออกของเมียนมา เยาวชนนำสีแดงมาทาถนนสายหนึ่ง พร้อมกับชูสัญลักษณ์สามนิ้ว วันเดียวกันนี้ยังคงมีการเดินขบวนประท้วงในหลายเมือง เช่นที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองรองจากย่างกุ้ง รวมถึงในรัฐกะเหรี่ยง และรัฐกะฉิ่นในภาคเหนือ ส่วนทางใต้ที่เมืองทวาย ประชาชนหลายร้อยคนเดินขบวนอย่างสันติพร้อมกับถือดอกประดู่ที่เป็นดอกไม้ประจำชาติของพม่า เพื่อให้เข้ากับเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้า ในพื้นที่หนึ่งของย่างกุ้ง ชาวบ้านจัดโครงการแบ่งปันอาหารให้แก่ครอบครัวยากจนที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง โดยเรียกร้องให้คนที่พอดีช่วยบริจาควัตถุดิบสำหรับใช้ประกอบอาหาร
          
วันเดียวกัน มีรายงานว่าการระดมทุนทางออนไลน์โดยกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางอองซาน ซูจี ที่โดนยึดอำนาจ มียอดเงินบริจาคแล้วเกือบ 10 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการผู้แทนราษฎร (ซีอาร์พีเอช) กล่าวว่า เงินเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อ "ถอนรากถอนโคนเผด็จการทหาร" และฟื้นฟูประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตามเมื่อวันอังคารที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านรมารัสเซียออกมาแสดงท่าทีคัดค้านการคว่ำบาตรเมียนมาแบบเดียวกับจีน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานอ้างคำกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียที่เตือนว่า "การข่มขู่และการกดดัน" รวมถึงการแซงก์ชันทางการเมียนมานั้น ไม่มีอนาคต และอันตรายมาก นโยบายเช่นนั้นจะ "ผลักดันชาวพม่าไปสู่ความขัดแย้งกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ"
          
รัสเซียพยายามพัฒนาความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารเมียนมา ในวันกองทัพเมียนมา 27 มีนาคม รัสเซียส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อเล็กซานเดอร์ โฟมิน มาร่วมพิธีสวนสนามที่กรุงเนปยีดอด้วย วันเดียวกันนั้นเป็นวันที่กองกำลังความมั่นคงเมียนมาปราบปรามผู้ประท้วงอย่างนองเลือดที่สุด มีคนตายมากกว่า 100 คน
          
ที่กรุงปักกิ่ง จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ย้ำจุดยืนของจีนที่คัดค้าน "การแทรกแซงที่ไม่เหมาะสม" ในเมียนมา แต่เขากล่าวว่า จีนสนับสนุนการประชุมสุดยอดของอาเซียนเพื่อหารือวิกฤติเมียนมา ตามที่ผู้นำมาเลเซียและบรูไนผลักดันเมื่อวันจันทร์

หน้าแรก » การเมือง