"เจ้ายอดศึก"ส่งทหารไทใหญ่ ถล่มเผด็จการทหารเมียนมาแล้ว  ขณะที่ "หวังอี้" ฝันประชุมอาเซียนช่วยเมียนมา"ซอฟท์แลนดิ้ง"  ส่วนรัฐบาลไทยเตรียมมอบเงินสนับสนุนการดำเนินการของสภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา 5 ล้าน พร้อมกันนี้จนท.ไทย -เมียนมาเร่งทำความเข้าใจหลังทหารเมียนมายิงเรือ ตชด.ไทย ริมน้ำสาละวิน

เมื่อวันที่  23 เม.ย.2564  ตามที่เกิดการก่อรัฐประหารในประเทศเมียนมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ผ่านมาภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโสมิน  อ่อง  หล่าย  ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและใช้กำลังปราบปรามด้วยอาวุธหนักต่อผู้ชุมนุมประท้วงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 รายแล้ว รวมถึงส่งกำลังโจมตีกองกำลังกลุ่้มชาติพันธุ์ควบคู่กัน และได้ประสานทางฝั่งไทยจะเปิดฉากโจมตีกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ ที่มีชายแดนติดประเทศไทย หลังจากนั้นก็มีการประกาศหยุดยิงแต่ในทางปฏิบัติหาเป็นเช่นนั้นไม่ 

จนกระทั้งมีรายงานจากด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แจ้งว่าได้เกิดเหตุลูกระเบิดหลายลูกตกใส่บริเวณเขตอิทธิพลของกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่หรือ SSA พื้นที่บ้านปางควาย ห่างจากชายแดนไทยด้าน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร ช่วงค่ำที่ผ่านมาในวันที่ 18-เม.ย.2564ติดต่อกัน ต่อมาวันที่ 21 เม.ย. ทหารเมียนมาที่ตั้งฐานใกล้กับกองบัญชาการทหารสูงสุดดอยไตยแลง  ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ได้ใช้ปืน ค.81 และ ปตอ.50 ยิงเข้ามาบริเวณป่า บริเวณแม่น้ำแม่กุน ใกล้กับฐานที่มั่นส่วนหน้า ของกองบัญชาการทหารสูงสุดดอยไตแลง  จำนวน 3-4 ลูก  แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่า จึงไม่มีความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

พลเอกยอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS.) กล่าวว่า การยิงตกมาตกในพื้นที่รอบฐานของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS.)  ของกองทัพเมียนมา เป็นอาการของคนกลัว และเป็นการโยนหินถามทาง ตอนนี้เราก็เพียงเตรียมความพร้อม หากเมียนมาเข้ามาโจมตีฐานเราเมื่อไหร เราจะโต้กลับแบบหนักหน่วงทันที 

พร้อมกันนี้พลเอกยอดศึกได้ทำหนังสือขอคำชี้แจงไปทางเผด็จการทหารเมียนมาแต่ไม่ได้รับคำตอบ ต่อมาสำนักข่าวฉานนิวส์รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย.2564 พลเอกยอดศึกได้ส่งกำลังทหารไทใหญ่ RCSS.เข้าโจมตีขบวนรถบรรทุกของทหารเมียนมาที่บริเวณหมู่บ้านนาข่านและหมู่บ้านกลองยาย อำเมืองนาย รัฐฉาน ส่งผลให้ทหารเมียนมาบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ในเวลาเดียวกันนั้นทหารเมียนมาอีกกลุ่มหนึ่งที่ออกเดินทางจากเมืองน้ำหจ่างลาดตระเวนไปทางหมู่บ้านดอยเงินและหมู่บ้านกุ้งโหม่งถูกทหารไทใหญ่ RCSS.โจมตีกลางทางทำให้ทหารเมียนมาถอยหล่นหนีไปอย่างรวดเร็ว 

และทหารเมียนมาอีกกลุ่มหนึ่งไปลาดตระเวนหมู่บ้านเมืองหนองระหว่างหมู่บ้านหนองเตาและหมู่บ้างเมืองลืมได้พบกับทหารไทใหญ่ RCSS.เกิดการปะทะสู้รบกันแต่ยังไม่ทราบการสูญเสียทั้งสองฝ่าย พร้อมกันนี้แม่ทัพภาคเมียนมาประจำการที่รัฐฉานกลางก็ได้เรียกประชุมอาสาสมัครรักษาดินแดนหรืออส.เพื่อเสริมกำลังพลเพื่อต่อสู้กับทหารไทใหญ่

"หวังอี้"ฝันประชุมอาเซียนช่วยเมียนมา"ซอฟท์แลนดิ้ง" 

นายหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงการประชุมผู้นำอาเซียนในวันเสาร์ที่ 24 เมษายนนี้ แบบพบหน้าที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นการระดมความพยายามจากนานาชาติครั้งแรกเผื่อบรรเทาวิกฤติในเมียนมาหลังจากเผด็จการทหารเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์และฆ่าผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยไปกว่า 700 รายว่า จีนหวังให้การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งนี้นำไปสู่การเริ่มต้นที่ดีช่วยให้สถานการณ์เมียนมาได้ทางออกสวยงาม "ซอฟท์แลนดิ้ง" โดยเขากำลังหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและบรูไน
          
พร้อมกันนี้นายหวังอี้ กล่าวตีกันว่า ควรหลีกเลี่ยงการแทรกแซงอย่างไม่เหมาะสมจากนอกภูมิภาค การกระทำที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการกดดันอย่างรุนแรงแบบไม่ลืมหูลืมตาจากภายนอกไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในประเทศใดๆได้ มีแต่จะสร้างความปั่นป่วนหรือสถานการณ์ย่ำแย่ลงอีก ซึ่งจะส่งผลและบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค"

"จีนขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกมีวัตถุประสงค์และทัศนคติที่เป็นธรรม ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ในเมียนมาให้มากขึ้นไม่ใช่ทำตรงข้าม จีนจะสื่อสารกับอาเซียนอย่างใกล้ชิดต่อไป และยังทำงานที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาตามวิถีทางของตนต่อไป" นายหวังกล่าว

ไทยเตรียมมอบ 5 ล้านบาท ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมพม่า

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศเมียนมาซึ่งส่งผลให้ประชาชนเมียนมาได้รับผลกระทบจำนวนมาก รัฐบาลไทยจึงพิจารณาเตรียมมอบเงินสนับสนุนการดำเนินการแก่สภากาชาดไทยจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเมียนมา โดยจะเป็นการดำเนินการผ่านสภากาชาดเมียนมา ซึ่งมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อเนื่องกับสภากาชาดไทย
          
สำหรับสถานการณ์ในประเทศเมียนมานั้น ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2564 นี้ จะมีการประชุมผู้นำอาเซียนเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่สำนักเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) เป็นผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะได้นำเสนอความคิดเห็นในที่ประชุม และหวังว่าผลของการประชุมจะมีส่วนทำให้สถานการณ์ในเมียนมาคลี่คลายอย่างสันติโดยเร็ว

จนท.ไทย -เมียนมาเร่งทำความเข้าใจหลังทหารเมียนมายิงเรือ ตชด.ไทย ริมน้ำสาละวิน

ขณะที่บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ริมแม่น้ำสาละวิน จากกรณีที่ทหารรัฐบาลมียนมาได้ยิงเรือตำรวจตระเวนชายแดนไทย (ตชด.ไทย) ตามที่ได้ปรากฏข่าวตามสื่อ และสื่อโซเซียล ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานปกครองไทย ได้ทำการ ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าข่าวดังกล่าวมีข้อเท็จจริง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการตรวจสอบกับทางหน่วยงานผู้ปฎิบัติตามแนวชายแดน  ทราบข้อเท็จจริงได้ว่าทหารเมียนมายิงนั้นได้เป็นเพียงการยิงข่มขู่เพื่อไม่ให้เรือ ตชด.ไทย เข้าใกล้ฐานทหารเมียนม่า เนื่องจากเกรงว่าการโจมตีจากกองกำลั กะเหรี่ยง KNLA  ทั้งนี้ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 (ฉก.ร.7) ได้ประสานทหารเมียนม่าเพื่อทำความเข้าใจ และสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน รวมทั้งได้ให้ข้อเท็จจริงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว
          
รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านี้ได้มีเสียงปืนจากฐานทหารเมียนม่า ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน   จากการที่ทหารเมียนม่าประจำฐานตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ใช้อาวุธปืนยิงสะกัดเรือที่กำลังจะลำเลียงขนเพื่อช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น ในรัฐกะเหรี่ยง- ที่ขอเป็นผู้ลี้ภัยในฝั่งไทย  โดย เสียงปืนได้ดังขึ้น ระหว่างที่เรือฝ่ายไทยและเรือชาวบ้านอีกลำหนึ่ง กำลังวิ่งแล่นในแม่น้ำสาละวิน  โดยที่เรือ ต.ช.ด.ไทย ได้ติดธงชาติไทย 2 ผืนตามตกลงร่วม  โดยทหารเมียนม่าได้ยิงปืนใส่เรือไทย  2 นัด   และมีชาวบ้านเห็นเรือ ต.ช.ด.ไทยเข้าไปจอดที่ฐานดังกล่าวอยู่ราวครึ่งชั่วโมง  โดยไม่ทราบว่ามีการเจรจากันว่าเป็นอย่างไรบ้าง   โดย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเรือไทยแล่นออกจากแม่สามแลบและผ่านบ้านท่าตาฝั่งอีก  ซึ่งหมายความว่าการขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้แก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยงต้องยากลำบาก ล่าช้าไม่ทันกับความต้องการ และสิ้นเปลืองขึ้นมาก  และมีความน่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการปะทะครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง ที่ริมชายแดนแม่น้ำสาละวิน  ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง