วันพฤหัสบดี ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:08 น.

การเมือง

องครักษ์พิทักษ์ "บิ๊กตู่" "บุญญาพร" ส.ส.หนึ่งเดียว รทสช. ทำหน้าที่แล้ว กลางศึกซักฟอก

วันพุธ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 18.58 น.

องครักษ์พิทักษ์ "บิ๊กตู่"! "บุญญาพร" ส.ส.หนึ่งเดียวรสทช.ทำหน้าที่แล้ว กลางศึกซักฟอก ยัน "นายกฯ" ไม่ได้สิ้นคิด "ประยุทธ์" แจงสภาฯ ฉุนฝ่ายค้านตีกิน-หวังผลหาเสียง โยงคนตระกูล "จันทร์โอชา" ลั่นเป็นตัวของตัวเอง ปมทุจริตปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ส.ส.เต้ลาออกกลางสภาฯ 

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติการเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวเปิดการอภิปรายการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา นโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ไม่ได้ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

"รัฐบาลชุดนี้ได้ฉายาหน้ากากคนดี ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นตัวตนของคนดีที่ใส่หน้ากาก จะกระชากหน้ากากคนดีให้ประชาชนได้รู้ แม้จะไม่มีการลงมติในการอภิปราย แต่ขอให้ประชาชนไปลงคะแนนในคูหา จะให้คนดีอยู่ต่อไหม ประเทศต้องไปต่อย่างมีศักดิ์ศรี มีอนาคต ไม่ใช่ไปต่อสำหรับใครบางคน เพื่อสืบทอดอำนาจ" นพ.ชลน่าน กล่าว 

ต่อจากนั้นได้มีสมาชิกทำหน้าที่อภิปรายอย่างต่อเนื่องจนกระทั้ง นางบุศรินธญ์ วรพัฒนานันน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ (พช.) อภิปรายระบุรัฐบาลประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด ปล่อยให้เครือข่ายทุนจีนสีเทาขยายอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วเมือง  รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาด้วยการกู้เงินมาแจก  เป็นเพราะผู้นำที่มาจากการรัฐประหารขาดความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส 

ทำให้นางบุญญาพร นาตะธนภัท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ​ (รทสช.) ลุกขึ้นประท้วง​ว่า ตามข้อบังคับที่ 69 การใส่ร้ายป้ายสีว่านายกฯสิ้นคิด​ ซึ่งนายกฯบอกเสมอว่าให้จัดการให้เด็ดขาด ไม่ใช่อย่างที่ผู้อภิปรายกำลังพูดอยู่ จึงเป็นการพูดจาใส่ร้ายเสียดสีนายกฯ 

ทำให้นายศุภชัย​ โพธิ์​สุ​ รองประธานสภาฯ คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม  วินิจฉัย​ว่า การกล่าวว่าสิ้นคิดอาจจะแรงแต่ไม่เสียหายอะไร​มากมายนัก ขอให้ผู้อภิปรายระมัดระวังแต่ไม่ถึงกับต้องถอนคำพูด คำพูดไหนแรงๆ ก็ขอให้พยายามหลีกเลี่ยง โดยนางบุศริณธญ์​ ชี้แจงว่า​ ตนได้อภิปรายด้วยความจริงใจ​ อยากเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นภาพการบริหารงานของรัฐบาล 

ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ (ทศล.) อภิปรายว่า รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์และประสิทธิภาพในการแก้ไขหลาย ทำให้ปริมาณหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากเดิมมากมายหลายเท่าตัว หลังจากอภิปรายเสร็จนายมงคลกิตติ์ได้เดินมาที่บริเวณหน้าบังลังก์ประธานที่ประชุมแล้วหันหน้ากลับมาหาสมาชิกส.ส.ในสภาฯแล้วยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นได้นั่งคุกเข่าแล้วก้มลงกราบลาอีกครั้ง 

ด้านนายศุภชัย  กล่าวว่า ช่วงท้ายที่นายมงคลกิตติ์ อภิปราย ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาในญัตติ แต่นายมงคลกิตติ์ก็ไม่ได้พูดกระทบคนอื่น ตนจึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ในวันที่ 17 ก.พ.เวลา 09.09 น. โดยผู้ที่จะเลื่อนขึ้นทำหน้าที่ส.ส.แทน คือ น.ส.ภคอร จันทรคณา ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไป

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า รัฐบาลไม่รู้จักการหารายได้แต่ใช้วิธีการกู้เงิน ทำให้มีหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ การปฏิรูปการศึกษาล้มเหลวไม่เป็นท่า ความเหลื่อมล้ำขยายตัวเพิ่มทวีคูณเนื่องจากรวยกระจุกจนกระจาย เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายจนอันดับตกจาก 80 ไปอยู่ที่ 100 กว่า ตลอด 8 ปีของการบริหารงานของรัฐบาล ปัญหาไม่ได้รับแก้ไข มีแต่เพิ่มงอกเงยขึ้นมา 

ขณะที่น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายถึงกรณีหลานชายพล.อ.ประยุทธ์ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้นั่งฟังอยู่ในห้องประชุมด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

"ประยุทธ์" ฉุนฝ่ายค้านตีกิน-โยงคนในตระกูลลั่นปมทุจริตไม่ละเว้น

ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้สิทธิชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ได้รับฟังที่สมาชิกได้แสดงความคิดเห็น แนะนำ ติเตียน มาตั้งแต่ช่วงเช้า ขอเรียนว่าข้อเสนอต่างๆที่มีการพูดถึง รัฐบาลได้ทำมาหมดแล้ว แต่บางเรื่องยังไม่บรรลุผลแต่ท่านก็ยังนำตีกินจนทุกวันนี้ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยราชการได้ชี้แจงแต่ท่านก็ไม่ฟัง  ในส่วนของการดูแลพี่น้องประชาชน SMEs  วิสาหกิจชุมชน ประชาชนที่มีรายได้น้อยรวมถึงการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า ถ้าลองไปศึกษาดูถ้ามันง่ายอย่างที่ท่านพูดก็คงทำมาได้นานแล้ว เพราะสมัยก่อนก็ทำไม่ได้

“เรื่องการทุจริตผิดกฎหมาย ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันไป การที่เอาผมไปโยงคนนั้นคนนี้ จะต้องเป็นญาติคนนั้นคนนนี้ผมคือตัวผม คือครอบครัวผมและผมไม่เคยเอื้อปรโยชน์ให้ใคร ก็ไปตรวจสอบมา เรื่องทุจริตในอดีตท่านไม่เคยพูดเก่งเช่นนี้เลย”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้รู้สึกว่ามีความพยายามในการหยิบยกประเด็นเหล่านี้มาเป็นประเด็นหาเสียงซึ่งตนไม่เคยไปแตะต้องทุกอย่างมีหลักการหลักเกณฑ์ไว้หมดแล้วทุกอย่างก็คงจะต้องไปตรวจสอบให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นจนกระทั่งผลสอบสวนออกมายืนยันว่าไม่เคยปล่อยประละเว้น

“ขอให้เคารพกระบวนการยุติธรรมไม่อยากให้ใช้อำนาจนิติบัญญัติไปก้าวล่วงอำนาจบริหารมากจนเกินไป เรื่องบางเรื่องก็ต้องใช้เวลาสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ไปร้องทุกข์”

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายเรื่องการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา)

หน้าแรก » การเมือง