วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:47 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่" แนะ "ม็อบ" เห็นต่างได้ แต่อย่าทำนอกกรอบกฎหมาย ส่งผลเสียกับประเทศ  

วันอังคาร ที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 13.41 น.

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566  เวลา 12.25 น.  ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า เรื่องดีๆมีเยอะแยะก็ขอให้ช่วยกันทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ และเรื่องบางเรื่องที่จบไปแล้วอย่างเช่นเหมืองทองอัคราก็ขอร้องว่าอย่านำเอาขึ้นมาใหม่เลย เพราะเราเองก็สามารถทำให้ประเทศไทยผลิตทองคำครบวงจรไปแล้ว และมีการชี้แจงกันไปแล้วจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมครม.วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เข้าร่วมประชุมครม.ทั้งที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจในทำเนียบรัฐบาล มีสิ่งผิดปกติอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า "มีอะไรเล่า ไม่มีๆ ก็ขออย่าให้มันมีก็แล้วกัน ผมไม่มีอะไรกับท่านและไม่มีแปลกหรอก หลายคนก็ลาประชุม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว และก็มีคณะทำงานเข้าร่วมประชุมแทน วันนี้ก็ลาตั้งหลายคน"

เมื่อถามว่าในฐานะรัฐบาลรักษาการขณะนี้มีปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมืองและมีการเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ขอให้ระวังข้อกฎหมายก็แล้วกัน ตอนนี้ก็เห็นว่ามีการฟ้องร้องกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเราทุกคนต้องรู้จักเคารพกฎหมาย การจะทำอะไรก็ตามถือเป็นสิทธิเสรีภาพของทุกคนแต่ขออย่าให้มีผลกระทบต่อผู้อื่น อย่าทำความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พร้อมดำเนินการทางคดีและฟ้องร้องอยู่แล้ว ก็ไม่อยากให้ทุกคนตกเป็นจำเลย แต่ก็เข้าใจแต่ทุกคนต้องอยู่ในกรอบ ขอให้นึกถึงคนที่ไม่ได้มาชุมนุม นึกถึงคนที่อยู่เป็นปกติสุข นึกถึงคนที่เขาอยากประกอบอาชีพรายได้แล้วมาเจอปัญหาเหล่านี้ ตนคิดว่าไม่ใช่เสรีภาพที่ชัดเจนและแท้จริง

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เห็นภาพ ระหว่าง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปก่อนกวนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เห็นแล้ว แล้วจะยังไง มันควรหรือไม่เล่า สื่อก็ต้องควรช่วยกันบอกสิว่ามันไม่ควร ไม่ใช่เสนอข่าวว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วมีการตีกันแบบนี้ สื่อก็ต้องช่วยกันบอกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่สื่อมวลชนเห็นแล้วมันไม่สมควร สื่อต้องช่วยกันแบบนี้ ไม่ใช่จะให้นายกฯพูดทุกเรื่อง มันต้องช่วยกันบ้านเมืองถึงจะสงบมีเสถียรภาพ มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีเรื่องของการลงทุนมีเรื่องของธุรกิจ ต้องเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศที่ต้องช่วยกัน ถ้าต่างคนต่างเสนอความขัดแย้งออกไปมันก็เกิดความขัดแย้งอยู่แบบนี้ก็จะมีปัญหาคนที่ทำก็จะทำต่อไปอยู่เรื่อยๆ แล้วการท่องเที่ยววันนี้มีคนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยวันละ 1.5 แสนคน แล้วถ้าทะเลาะกันอยู่แบบนี้เขาจะมาทำไม เพราะฉะนั้นถ้าจะทำอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบกันหน่อย ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎหมายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง จะมาอ้างโน่นอ้างนี่มันไม่ใช่เรื่อง เป็นการไปขยายให้พวกเขาเท่านั้นเอง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเสถียรภาพการเมืองปัจจุบันหลังพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจับมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ไม่ทราบตนไม่มีความคิดเห็นตรงนี้ ตนบอกแล้วไงตนไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องของการเมืองพรรคการเมืองก็ว่ากันไป ตามกลไกของรัฐธรรมนูญก็ว่ากันไปต้องยอมรับกติกาตรงนี้มิใช่หรือ และที่ผ่านมาก็รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และทุกคนก็รู้อยู่แล้ว เมื่อรู้กันแล้ว แล้ววันนี้จะมามีปัญหาอะไรนักหนากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพอเปลี่ยนรัฐบาลทีก็มีการแก้รัฐธรรมนูญกันทุกครั้งมองเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากวงให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวว่า แล้วสื่อมองอย่างไรล่ะ ก่อนรีบเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ผบ.ตร.เตือนทำผิดซ้ำซากติดเงื่อนไขอาจอาจได้นอนคุก

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิติตประภัสร์ ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกลุ่มมวลชนเห็นต่างทางการเมืองกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรมและที่พรรคเพื่อไทยว่า จากการรับรายงานกลุ่มที่ไปจัดกิจกรรมที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรมผิดหลายข้อหา ทั้งบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด มีอัตราโทษสูง เจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินคดีเตรียมออกหมายเรียกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนที่พรรคเพื่อไทยทราบว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาก็คล้ายกัน บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.ความสะอาด ใครที่ทำผิดซ้ำซากติดเงื่อนไขอาจถูกเพิกถอนการประกันตัวชั่วคราว อยากจะเตือนสิทธิการชุมนุมมีสิทธิ์ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย อย่าถือว่าไม่รับรู้อะไรแล้วมาโวยวายทีหลังอะไรเป็นสิทธิ์ของประชาชนไม่ได้ ผิดก็ว่าไปตามผิดทุกคนมีกรอบกฎหมายเท่ากัน แต่ละครั้งก็เท่ากับหนึ่งกรรมที่ต้องโดน

ถึงแม้บางแห่งจะยังไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแต่ถ้าเป็นความเสียหายต่อรัฐสามารถดำเนินคดีได้ ส่วนที่หน้างานหลีกเหลี่ยงการจับกุซึ่งหน้าถ้าไม่จำเป็น แต้ถ้าจำเป็นก็มีการจับกุมซึ่งหน้าไปตามแนวทางที่เคยดำเนินการไว้ แต่ทุกคดีเจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินคดีย้อนหลัง อยากเตือนว่าทำคะไรคิดถึงหลักกฎหมายด้วย ความเห็นต่างเป็นสิทธิ์ ชุมนุมสามารถชุมนุมได้ตามกรอบสิทธิ์รัฐธรรมนูญ ถ้าไปรบกวนปิดกั้นเข้าข่ายบุกรุก ส่วนความผิดที่ก่อเหตุหลายที่จะมีความผิดเพิ่มขึ้นหรือไม่อยู่ที่อัยการหรือศาลที่ต้องพิจารณาหลักฐานว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ของตำรวจ ใครทำผิดซ้ำเราก็จะดำเนินการตามขั้นตอน

“ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่เขารู้อยู่แล้วว่าตรงไหนที่อาจจะมีเหตุได้มีแผนรองรับ เหตุการณ์ที่พรรคเพื่อไทย อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.1 ผู้บังคับการนครบาล 1 ต้องประเมิณสถานการณ์เพิ่มเติม ถ้ามีการประชุมการจัดตั้งรัฐบาลตจ้องมีการเตรียมการให้เข้มงวดมากขึ้น  ก็เป็นกลุ่มที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง”ผบ.ตร.กล่าว

หน้าแรก » การเมือง