วันพฤหัสบดี ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:56 น.

การเมือง

  "อาจารย์อุ๋ย" ชี้ "นครชัย-พิธา" ต้องร่วมกันรับผิดกรณีเลือกตั้งซ่อมระยอง 

วันจันทร์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 15.14 น.

นักวิชาการด้านกฎหมาย ปชป. ชี้ นครชัย-พิธา ต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้งซ่อมที่ระยอง และร่วมกันรับผิดทางอาญาโทษฐานส่งผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติ 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 จากกรณีที่นายนครชัย ขุนณรงค์ สส. ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ได้ลาออกจากตำแหน่งเพราะเคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีลักทรัพย์เมื่อ ปี 2542 ซึ่งทำให้ขาดคุณสมบัติในการสมัคร สส.  ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (10) จนเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมที่ เขต 3 ของจังหวัดระยอง นั้น 

นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 กำหนดว่า “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”

ดังนั้น การที่นายนครชัยซึ่งรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าตัวเองเคยต้องคำพิพากษาลักทรัพย์มาแล้ว ขาดคุณสมบัติ ยังจะลงสมัคร สส. ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม รัฐต้องเสียค่าใช้จ่าย จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะการกระทำดังกล่าว 

นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432 กำหนดว่า "ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น..." กล่าวคือหากพรรคก้าวไกลและคุณพิธาซึ่งเป็นคนเซ็นรับรองมีส่วนจงใจหรือประมาทเลินเล่อให้นายนครชัยลงสมัครได้ พรรคก้าวไกลแและคุณพิธาก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับรัฐ        ในการเลือกตั้งซ่อมเช่นเดียวกัน 

ส่วนในทางอาญา นั้น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 มาตรา 151 กำหนดว่า "ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี"

ดังนั้น นอกจากนายนครชัยที่จะต้องรับผิดโดยส่วนตัวแล้ว คุณพิธา ในฐานะที่เป็นผู้เซ็นรับรองให้ลงสมัครก็ถือเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หากคุณพิธารู้หรือควรจะรู้ว่านายนครชัยขาดคุณสมบัติ  

ทั้งนี้ นายประพฤติทิ้งท้ายว่าผู้ที่จะมาเป็นตัวแทนประชาชน เป็นปากเสียงให้กับประชาชน ดูแลการใช้จ่ายเงินภาษีที่พี่น้องประชาชนใช้หยาดเหงื่อแรงกายทำงานแลกมา ย่อมต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และเป็นผู้มีความประพฤติดีงามเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนและสังคม การคัดกรองผู้สมัครอย่างถี่ถ้วนจึงเป็นสิ่งจําเป็น กฎหมายถึงได้กำหนดโทษไว้หนักหากฝ่าฝืน จึงอยากฝากให้ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญด้วย

หน้าแรก » การเมือง