เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ. ครั้งที่ 9/2566 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีวาระสำคัญเรื่องการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการอัยการ ระดับรองอัยการสูงสุด 4 ราย ระดับผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย ระดับอธิบดีอัยการ 53 ราย ระดับรองอธิบดีอัยการ 83 ราย ระดับอัยการพิเศษฝ่าย 149 ราย ระดับอัยการชั้น 6 (ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ) 74 ราย ระดับอัยการชั้น 5 (อัยการจังหวัดอัยการผู้เชี่ยวชาญ) 85 ราย ระดับอัยการชั้น 4 (อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด) 93 ราย ระดับอัยการชั้น 3 จำนวน 93 ราย อัยการอาวุโส 84 ราย รวมทั้งสิ้น 727 ตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป มีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้
          
1.นายบุญมี แดนวังเดิม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) ขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี 3.ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด และยังนั่งเลขาธิการสถาบันนิติวัชร์อยู่เช่นเดิม 4.นายเลิศพงศ์ กลัดอ่ำ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน ขึ้น รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน 5.นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการภาค 9 

6.นายประธาน จุฬาโรจน์มนตรี อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด เลขานุการอัยการสูงสุด (น.ส.นารี ตัณฑเสถียร) ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย 7.นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด เป็น เลขานุการอัยการสูงสุด (นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ว่าที่อัยการสูงสุดคนต่อไป 8.นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด(สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย) เป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย) สำนักงานวิชการ 9.น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดหญิงคนแรกขององค์กร เป็นอัยการอาวุโส 10.นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด เป็น อัยการอาวุโส สำหรับนายสมเกียรติตามคิวจะได้รับการพิจารณาขึ้นนั่งอัยการสูงสุดในวันที่ 1 ต.ค.67 แต่ได้สละสิทธิ โดยแจ้งความประสงค์ขอสละตำแหน่งบริหาร ไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส
          
11.นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ ผู้ตรวจการอัยการโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส 12.นางภาวนา ยิ่งวิริยะ อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส โดยนางภาวนาไม่ขอนั่งตำแหน่งบริหาร
          
นอกจากนี้ยังมีอัยการชื่อดังที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญ อาทิ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุดอยู่ตำแหน่งเดิม แต่ขยับเป็นรองอัยการสูงสุดคนที่ 1 ซึ่งมีคิวถูกเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุดคนต่อไปจากนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ว่าที่ อสส.