วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:32 น.

การเมือง

"ไชยา" มอบนโยบาย อ.ส.ค .ปรับแผนโครงสร้างบริการงานดึงมืออาชีพ ทำงาน ไม่สนคนของการเมือง

วันจันทร์ ที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 16.35 น.

"ไชยา" มอบนโยบาย อ.ส.ค .ปรับแผนโครงสร้างบริการงานดึงมืออาชีพ ทำงาน ไม่สนคนของการเมือง  ย้ำต้องไม่เป็นรัฐวิสาหกิจสร้างปัญหางานงบประมาณภาครัฐ หลังขาดทุนต่อเนื่อง ทั้งที่เทคโนโลยีโรงงานผลิตนม ได้มาตรฐานอาเซียน

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมคณะลงพื้นที่สระบุรี พร้อมกับมอบนโยบาย การทำงานให้กับ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) โดยกล่าวว่า ปัจจุบันการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมมีอุปสรรคจากการเกิดโรคระบาดในวัว (ลัมปิสกิน) และต้นทุนอาหารสูงจนเกษตรกรเลิกเลี้ยงโคนมจำนวนมาก ส่งผลให้น้ำนมดิบมีปริมาณลดลง เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมขาดทุนจึงเลิกกิจการเป็นจำนวนมาก และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 อ.ส.ค. ได้ปรับราคาซื้อน้ำนมดิบ ณ โรงงานเพิ่มขึ้น 2.25 บาท/กิโลกรัม เป็น 22.75 บาท/กิโลกรัม เพื่อบรรเทาปัญหาให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงผลักดันให้ อ.ส.ค. ผลิตน้ำนมแปรรูปในเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตามจากการติดตาม การดำเนินการธุรกิจของทาง  อสค.พบว่าผลิตภัณฑ์นมของ อ.ส.ค. (นมไทย-เดนมาร์ค) ถือว่าเป็นตราสินค้าที่ติดตลาดเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากมีเครื่องจักรและกระบวนการผลิตที่ดี อันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นผลิตภัณฑ์นมที่คนไทยเลือกซื้ออันดับ 1 ซึ่งสามารถแข่งขันกับภาคเอกชนได้ จึงมอบนโยบายให้ อ.ส.ค. วางแผนส่งเสริมกิจการโคนมแบบนักธุรกิจในปี 2567 เพื่อให้สามารถแข่งขันกับภาคเอกชน รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จากการจัดทำแบรนด์สินค้าเจาะตลาดระดับบน เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง สามารถทำกำไรได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ.ส.ค. มีต้นทุนจากแหล่งน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ ทำให้มีจุดขายสินค้าที่คุณค่าทางอาหารมากกว่าเจ้าที่ผลิตจากน้ำนมแปรรูปจากนมผง และผันตัวไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในท้องถิ่นรับช่วงต่อในการจำหน่ายนมโรงเรียนแทน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวฟาร์มโคนมและผลิตภัณฑ์นมของ อ.ส.ค. ให้น่าสนใจและมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น

“ ผมอยากให้ทาง อ.ส.ค. ปรับแผนการทำงานใหม่และกลับไปคิดว่าทำไมมันถึงขาดทุนต่อเนื่องต้องคิดนอกกรอบ ว่าจะทำอย่างไงให้สามารถเลี้ยงตัวเองให้ได้ ไม่ใช่ขาดทุนต่อเนื่อง  จากนี้ไปต้องคิดใหม่ และต้องหาคนที่เป็นมืออาชีพมาบริการงาน ไม่ใช่เอาคนของการเมืองมาบริหารงาน เท่านั้นยุคผมจะไม่มีอย่างนี้ ต้องไปคิดว่าจะบริหารงานอย่างไงให้องค์กรอยู่ได้ จากนี้ไป รัฐวิสาหกิจ ในยุคของผมจะต้องไม่รอการจัดสรรงบประมาณ จากภาครัฐมาช่วยเหลือ ต้องทำตัวไม่ให้เป็นภาระของงบประมาณแผ่นดินเป็นภาระของภาครัฐ  ต้องไปคิดกัน  ว่า อ.ส.ค. จะทำอะไรได้ อ.ส.ค. สามารถทำอะไรได้เยอะ พื้นที่ เท่าที่ดูสามารถพัฒนาต่อยอดได้หลายธุรกิจ ทั้งท่องเที่ยว  ทั้งธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ แปรรูป แปรรูปผลิตภัณฑ์ ลองไปคิดกันดู หากเรามีแผนที่ชัดเจน มันจะสามารถระดมทุนได้อย่างมหาศาล  ผมมองไปถึงการพัฒนาไปถึงการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ได้ และเป็นที่เพิ่งของเกษตรกรได้  ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง อ.ส.ค.ต้องไปศึกษา กันมา ว่าจะทำอย่างไง“ นายไชยากล่าว 

จากนั้น นายไชยา ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและให้กำลังใจเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ณ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค (มิตรภาพ) ซึ่งความกังวลส่วนใหญ่ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ได้แก่ ต้นทุนอาหารสำหรับโคนมมีราคาสูง รวมถึงต้องการจำหน่ายน้ำนมดิบในราคาตามกลไกตลาดเพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถมีรายได้ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ยื่นเรื่องการปรับราคาการจำหน่ายน้ำนมดิบในราคาที่เป็นธรรม ตามมติการประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เข้าสู่การพิจารณาของครม.ต่อไป

 
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง