"ชวน"ไม่แปลกใจ  21 สส.ดัน "เฉลิมชัย" นั่งหัวหน้าปชป. เพราะดูแลเขามา 4 ปีแล้ว  "เฉลิมชัย" ลั่นทั้งชีวิตปกป้องพรรค ขณะที่ "มาดามเดียร์" ลั่นเดินหน้าชิงเก้าอี้หัวหน้า ปชป. ขอโอกาสเลือดใหม่ ไม่หวั่ง "เฉลิมชัย"  

เมื่อวันที่ 08 ธันวาคม 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลักภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวาระเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า คิดว่าเรียบร้อย   ส่วนกรณี21สส.พรรคประชาธิปัตย์จะมีการเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค และรักษาการเลขาธิการพรรค ชิงหัวหน้าพรรค นายชวนกล่าวว่าดูจากข่าวเท่านั้น  แต่ว่าความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะในที่ประชุมพรรคหลายครั้งเขาพูดว่าจะเลือกใครหัวหน้าพรรคแล้วแต่เลขาฯสั่ง เพราะเลขาฯก็ดูแลเขามา4ปีแล้ว  

เมื่อถามว่าจะเลือกใคร นายชวน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับชมยังไม่ทราบว่าใครเสนอบ้างก็ให้กำลังใจทุกคนที่คิดสมัคร ถือเป็นความตั้งใจที่น่าชื่นชมส่วนจะเป็นใครก็แล้วแต่สมาชิก เมื่อถามว่าคิดว่าเรียบร้อยดีองค์ประชุมจะไม่ล่ม นายชวนเลี่ยงตอบพร้อมระบุว่าจะไปเปิดงานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

"เฉลิมชัย" ขอถกสส. ต้องมีเหตุผลลั่นทั้งชีวิตปกป้องพรรค

ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้า และรักษาการเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลัง21สส.ประกาศสนับสนุนชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า ต้องคุยกับกลุ่มสส.อีกครั้งหนึ่งเพราะยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไร วันนี้เป็นสิ่งที่ต้องคิดมากที่สุดการจะตัดสินใจแต่ละเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่แสดงให้ทุกคนเห็นนับตั้งแต่การเลือกตั้งจบตนไม่เคยแสดงความกระสันอยากจะเป็นอะไรแค่อยากให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่คงจะต้องคุยกับกลุ่มสส.ที่เสนออีกครั้ง  ยืนยันว่าไม่ได้เชิญสส.ไปกินข้าวบ้านตนมา2เดือนแล้วที่ผ่านมาก็เดินสายทำธุรกิจไปต่างประเทศและคนที่รู้ดีที่สุด คือน.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ไปถามดูได้  ยืนยันว่าตนมีความรับผิดชอบในส่วนของตน บ้านหลังนี้เป็นบ้านตนก็ต้องการให้บ้านหลังนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นมีแต่เรื่องภายในซึ่งคนภายนอกไม่รู้ เรื่องนี้ขอให้คุยกับสส.อีกครั้ง

เมื่อถามว่า หากสส.ยืนยันที่จะเสนอชื่อ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องมีเหตุและผลแต่ขอให้คุยก่อนดีกว่า ส่วนที่บอกว่าตนเข้ามาเพื่อความเป็นเอกภาพย้ำว่า ต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ ยืนยันว่านับตั้งแต่เป็นผู้บริหารพรรคขอถามว่ามีใครหรือไม่ที่ถวายชีวิตเอาชีวิตปกป้องพรรคและหัวหน้าพรรคแบบตนขอให้เอามาวัดกัน ยืนยันว่าใช้ชีวิตทั้งชีวิตปกป้องพรรคประชาธิปัตย์ ถึงเวลาจะออกมาชี้แจงทั้งหมด

"มาดามเดียร์" ลั่นเดินหน้าชิงเก้าอี้หัวหน้า ปชป. ขอโอกาสเลือดใหม่ ไม่หวั่ง"เฉลิมชัย"

น.ส.วทันยา บุนนาค ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันว่าจะขอสู้จนถึงที่สุดในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนที่ 9 หลังกรณี 21 สส.ของพรรคมีมติสนับสนุนให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคฯ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แม้ก่อนหน้านี้นายเฉลิมชัย จะประกาศเลิกเล่นการเมืองไปแล้ว โดยตั้งใจและศรัทธาในวิถีอุดมการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดใดๆ และไม่เปลี่ยนจุดยืนที่ตั้งใจเสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับสมาชิกพรรค เพราะมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในพรรค หนทางเดียวที่จะทำให้พรรคกลับมาเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้คือทำตามจุดยืนและอุดมการณ์ให้ชัดเจน ดังนั้นพรรคต้องเสนอทางออกเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง
          
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น จะขอทำตามความฝันและสู้ถึงที่สุด ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้เป็นการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ตนเคารพความเห็นที่แตกต่าง ไม่สามารถตอบแทนสมาชิกอื่นๆ ได้
          
"หลายคนบอกเดียร์ว่าเป็นเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ในฐานะคนคนหนึ่งเชื่อวิถีอุดมการณ์ ฉะนั้นการให้โอกาสครั้งนี้ ไม่ใช่ให้โอกาสเดียร์ได้เลือกตั้งหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการให้โอกาสพรรคเติบโตเปลี่ยนแปลง" น.ส.วทันยา กล่าว
          
หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วตนแพ้ก็จะขอกลับมาประเมินอีกครั้งว่าทิศทางจะยังเป็นเหมือนเดิมกับวันแรกที่เดินเข้ามาสมัครเข้าพรรคหรือไม่ เหมือนวันแรกที่ตนศรัทธาหรือไม่ ตนศรัทธาพรรคในสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ ประชาชนเป็นเจ้าของ สมาชิกทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด ไม่มีเจ้าของมาชี้นิ้วสั่ง ดังนั้นจึงยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะออกจากพรรคหรือไม่ ไม่ได้เป็นความผิดใคร พรรคก็เป็นเรื่องของพรรค สมาชิกก็เป็นเรื่องของสมาชิก แต่แนวอุดมการณ์ของตนเป็นเรื่องของตน ถ้าเราไม่เหมาะสมกับองค์กรใดก็เป็นเรื่องของตัวเองที่ต้องพิจารณา
          
ส่วนความชัดเจนเรื่องทีมกรรมการบริหารชุดใหม่นั้นยังไม่มี และที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามาด้วยตัวเอง หากวันนี้ต้องการฟื้นฟู ต้องเลิกที่จะเลือกจากความสัมพันธ์และจากระบบอุปถัมภ์ ต้องก้าวข้าม เลือกคนที่คุณสมบัติและความสามารถ หากเลือกเพราะความสัมพันธ์และระบบอุปถัมภ์จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งของคนในพรรค ท้ายที่สุดประชาชนและพรรคจะต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถออกไป