เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567   ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอนุกรรมการเพื่อศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการขับเคลื่อนไปสู่รัฐสภาสีเขียว (Green Pariament) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าวันนี้ได้มาเยี่ยมชมที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หรือสำนักงานพัฒนาพิงนคร (องค์การมหาชน) ครับ โดยมีนายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนครและผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลางปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร แวะมาให้ความรู้ ต้องยอมรับว่าเป็นสวนสัตว์ที่ได้รับการผลักดันจากรัฐบาลสมัยพรรคไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทย และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอันมาก แต่ที่ผ่านมาการสนับสนุนจากรัฐบาลจากการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมีน้อยลง ทำให้สวนสัตว์แห่งนี้ แทนที่จะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ลดน้อยลง จากเดิมที่สามารถ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนหลักล้านคนต่อปี รายได้หลายร้อยล้านบาท ก็ลดลงมาตามลำดับ เพราะจำนวนสัตว์ลดลงมาก งบประมาณที่สนับสนุนก็ลดน้อยถอยลง ผนวกกับการพัฒนาพื้นที่ก็มีการสนับสนุนที่รถน้อยลง

อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปชมสวนสัตว์ที่เมืองฉิงตู ศูนย์อนุรักษ์แพนด้ายักษ์เมืองเฉิงตู (Giant Panda Breeding Research Base)  เป็นแหล่งพัฒนาหมีแพนด้า และเป็นสวนสัตว์ที่ได้เคยมอบหมีแพนด้า ให้ามาแล้วสวนสัตว์ไทยมาแล้ว มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมมหาศาล มีการต่อคิวกันตั้งแต่เช้าถึงมืด มีการพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน ประชาชนในพื้นที่รอบข้างมีรายได้ สร้าง GDP ให้กลับประเทศจีนด้วยเหตุเพราะสวนสัตว์แห่งนี้ ถ้าไทยจะมีศูนย์แบบนี้บ้าง และเป็นเขตพื้นที่พัฒนาพัฒนาสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของไทย เป็นแหล่งศึกษาให้ความรู้ สำหรับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ก็จะได้ประโยชน์กับประเทศไทยเป็นอันมาก ผมเห็นว่าควรจะขยายในซาฟารีในการกำกับของรัฐ ให้ไปยังภูมิภาคต่างๆ และสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้นสัก 5,000 ล้านบาท จะเสริมทัพการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองไทยจะมีการผ่านธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จากสภาเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการหนุนนำกันนำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้กับ ประชาชน และเพิ่ม GDP ให้กับประเทศเป็นอย่างดี