เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 11.15 น.  ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ตนชื่นชม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดและเป็นผู้นำรัฐบาลที่เป็นผู้มากความรู้ความสามารถ และตนขอตั้งชื่อนโยบายของท่านว่า "คุณพ่อคิดคุณลูกทำ" และตนขอชื่นชมว่านโยบายทั้ง 10 ข้อนั้นมีความเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน โดยในนโยบายเร่งด่วนนั้นที่รัฐบาลจะดูแลและส่งเสริมปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของผู้แข่งขันต่างชาติ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นสิ่งที่ตนเห็นว่าเป็นนโยบายที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน แต่เราก็ต้องยอมรับว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศมีความทันสมัยและประหยัด ตนจึงขอเสนอแนะให้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการกรีดกันเป็นการพลิกแพลง คือการเปลี่ยนจากคู่แข่งให้เป็นคู่ค้าแทน

"และอีกเรื่องที่ไม่แพ้ไปจากนโยบายเร่งด่วน คือเรื่องความมั่นคงของชาติ ที่รัฐบาลได้กล่าวว่า มีความมั่นคงที่จะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ และดำเนินงานตามแนวพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง" นายพิสิษฐ์กล่าว

นายพิสิษฐ์กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และควรทำควบคู่กันไปกับนโยบายเร่งด่วนเพื่อเป็นการป้องกันผู้ใดที่ทำการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทรามเข้าลักษณะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเอาไว้ และย่อมเป็นการทำร้ายจิตใจปวงชนชาวไทยที่มีความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ และทรงเป็นประมุขศูนย์รวมความเป็นชาติ ที่รัฐต้องคุ้มครองและเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา และเพื่อป้องกันความแตกแยกความสามัคคีของคนในชาติ ตนมองว่ารัฐบาลเองจะต้องยึดมั่นในคำแถลงนโยบายด้านสถานบันพระมหากษัตริย์อย่างเข้มงวดและเคร่งครัด ไม่คิดจะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตนในฐานะพสกนิกรคงไม่ยินยอมอย่างแน่นอน