วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2568 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “เติมเต็มระบบคุ้มครองเด็ก จากชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด สู่นโยบายชาติและพันธะสากล” พร้อมปาฐกถาพิเศษแก่ผู้เข้าร่วมการสัมมนาจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรอิสระด้านสิทธิเยาวชน ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพมหานคร

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวในพิธีเปิดว่า ความต้องการของเด็กและผู้ปกครอง ได้ถูกสะท้อนออกมาในการมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของลูกหลาน  โดยหากภาครัฐและทุกภาคส่วนเปิดใจรับฟังอย่าง จะเห็นถึงศักยภาพของท้องถิ่น จิตอาสา ประชาคม ก็สามารถก้าวข้ามข้อจำกัด
ของระบบคุ้มครองเด็กไปด้วยกันได้

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน 3 ประการ ได้แก่

1. ให้มีการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดเป็นประจำทุกเดือน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเข้าร่วมด้วยตนเอง

2. ให้จัดทำฐานข้อมูลกลางผ่านเว็บไซต์ของจังหวัด พร้อมทั้งรายงานผลอย่างเป็นระบบ

3. ให้เสริมสร้างศักยภาพแก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่น อำเภอ หน่วยบริการ สถานศึกษา องค์กรศาสนา และภาคประชาชน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำว่า การดำเนินนโยบายดังกล่าวจะสัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง เมื่อสามารถพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารที่สะท้อนวัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยบริการในทุกมิติ ทั้งด้านปริมาณ ความครอบคลุม คุณภาพ และการติดตามผลลัพธ์ในระดับครอบครัวและเด็ก โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล “เติมเต็ม” เป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงข้อมูล การประชุม การวางแผน และการติดตามผลแบบทันการณ์ (Real-time Record and Report) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดภาระของผู้ปฏิบัติงาน

“การสัมมนาในวันนี้ มิใช่เพียงโครงการนำร่อง แต่เป็นการริเริ่มนวัตกรรมเชิงพื้นที่ (Innovation Sandbox) ที่สามารถขยายผลสู่การปฏิบัติจริง อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคท้องถิ่นและภาคประชาชนที่มีความพร้อมและมีจิตอาสาเป็นฐานสำคัญ” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า หากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจ ทั้งหน่วยนโยบาย หน่วยบริการภาครัฐ ท้องถิ่น และภาคประชาสังคม ระบบคุ้มครองเด็กของประเทศไทยจะสามารถเข้าถึงเด็กในภาวะเปราะบางได้อย่างครอบคลุม ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม และสร้างโอกาสให้เด็กไทยเติบโตอย่างปลอดภัย มีคุณภาพ และมีอนาคตที่มั่นคง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในเรื่อง “ทุนมนุษย์” เป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศที่จะเร่งส่งเสริมผลักดันให้เกิดการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยอย่างเต็มกำลังและความสามารถ