นายกรัฐมนตรี กำชับหลังเกิดเหตุอาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยใหม่ผ่าน Cell Broadcast ให้แม่นยำ-รวดเร็ว พร้อมเร่งสอบเหตุอาคาร  

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการดำเนินงานของภาครัฐหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า ทันทีที่เกิดเหตุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติในเขตกรุงเทพฯ ทันที หลังเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ถล่ม

ต่อมาไม่นาน ได้มีการเรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าทำไมเมื่อเกิดเหตุถึงไม่มีข้อความแจ้งเตือนถึงประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมกำหนดแนวทางร่วมกันในการพัฒนาระบบ Cell Broadcast โดยให้บริหารด้านการเฝ้าระวัง ส่งข้อมูลมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่รับบทเป็นตัวกลาง ในการส่งการแจ้งเตือนเหตุสาธารณภัย แทนการส่งข้อความแจ้งเตือนภัยแบบเดิม ที่จะต้องมีการประสานหลายหน่วยงานก่อนจะมีการส่งถึงประชาชน ซึ่งมีความล่าช้า ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยได้เน้นย้ำให้ ระบบต้องมีความแม่นยำ รวดเร็ว และต้องพร้อมใช้งานภายในเดือนกรกฎาคม

ส่วนการตรวจสอบสาเหตุของการพังถล่มของอาคารนั้น กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบ ภายในกรอบระยะเวลา 90 วัน (หลังการเกิดการถล่ม) ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการอาการออกแบบ การก่อสร้าง การจัดซื้อจัดจ้าง วัสดุ

ขณะเดียวกัน ยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นรายงานสัญชาติใด ให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติภารกิจในการรื้อถอนโครงสร้างอาคารที่ถล่ม และค้นหาผู้ติดค้างอย่างเต็มที่ เพื่อนำร่างผู้ติดค้าง ส่งคืนญาติให้ได้อย่างสมบูรณ์ และรวดเร็วที่สุด