เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.)กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราปัจจุบันว่า ยางทุกชนิดยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดย
ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) ราคาปรับขึ้นมา 72 บาทต่อกิโลกรัม (กก.),ยางแผ่นดิบคุณภาพดี (ความชื้นไม่เกิน 3%)  ราคาปรับขึ้นมา 70 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคายางทั้ง 2 ชนิดความต้องการสูงทำนิวไฮ รอบ 1 เดือน ส่วนน้ำยางสด ราคาปรับขึ้นมา 59.50 บาทต่อกิโลกรัม, ยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ราคาปรับขึ้นมา 59.25 บาทต่อกิโลกรัม และ ยางก้อนถ้วย (DRC 70%) ราคาปรับขึ้นมา 41.48 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงก่อนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ 

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้า ตนได้มอบหมายให้กองรักษาเสถียรภาพราคายาง การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เข้าซื้อน้ำยางเพิ่ม และจ้างปั่นเพื่อจำหน่ายให้สหกรณ์ตราดไปทำผลิตภัณฑ์หมอนและที่นอนส่งออกไปยังประเทศอินเดียต่อไป รวมถึงจะนำน้ำยางสดที่ผ่านกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation-free Regulations: EUDR) นำไปผลิตเป็นยางแผ่นรมควันด้วย

“ขอให้ชาวสวนยางเชื่อมั่นในกระทรวงเกษตรฯ เรามุ่งมั่นแก้ปัญหาด้านราคายาง เพื่อคลายความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรให้เร็วที่สุด ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา เราเร่งแก้ปัญหาอย่างหนักเพื่อทำให้ราคายางพารากลับมาเท่าเดิมให้ได้ และเราก็สามารถได้แล้ว“ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอฝากไปยังเกษตรกรชาวสวนยางว่า ระหว่างเลื่อนเปิดกรีดยาง เกษตรกรสามารถบำรุงรักษาต้นยางเพื่อเตรียมความพร้อม โดย กยท.จะสนับสนุนสินเชื่อระยะสั้นผ่านสถาบันเกษตรกร วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อสัญญา ปลอดดอกเบี้ย 4 เดือน เริ่มตั้งแต่พฤษภาคมนี้ และ กยท.ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการที่รับซื้อยาง ด้วยการชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ภายใต้เงื่อนไขเข้าร่วมโครงการ พร้อมเดินหน้าแผนซื้อโรงงานผลิตยางล้อเพื่อรองรับผลผลิตเกษตรกร ช่วยดึงผลผลิตออกจากตลาด ยกระดับคุณภาพสินค้ายางพารา และส่งเสริมแบรนด์สินค้ายางพาราของ กยท.รวมถึงเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศด้วย