การเมือง
“ธีระชัย” สับมาตรการแวตธุรกิจมีรายได้ 1.8 ลบ. สกัดสร้างโอกาสธุรกิจหน้าใหม่
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พปชร. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงแนวคิดของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อบังคับคนทำธุรกิจที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องเข้าระบบเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) โดยอาจกำหนดเป็นแวตประเภทที่ 2 อัตรา 1% ของรายได้ 1.5 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่าจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 2 แสนล้านบาทนั้น นายธีระชัยคัดค้านเห็นว่าเป็นนโยบายที่เฉือนเนื้อคนจนเพื่อเอาไปแปะให้คนรวยอันไม่เป็นธรรม
นายธีระชัยอธิบายว่า ข้อกำหนดปัจจุบันที่ยกเว้นบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีไม่ต้องเข้าระบบแวต นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม เพื่อเป็นกำลังใจให้คนรุ่นหนุ่มสาวเข้าไปเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงกำหนดภาระภาษีให้หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% ดังนั้น แนวคิดของนายพิชัยที่จะรื้อกติกานี้ จึงเป็นนโยบายขยายฐานภาษีแบบ “บนลงล่าง” ที่มุ่งให้ชนชั้นล่างต้องแบกภาระภาษีมากขึ้น ส่วนคำอธิบายเหตุผลสนับสนุนว่าเพื่อแก้ปัญหาพ่อค้ารายย่อยไม่ยอมโตนั้นไม่น่ารับฟัง เพราะถ้าธุรกิจไปได้ดีขายได้มาก ผู้ประกอบการมีแต่ประสงค์จะขยายกิจการ เว้นแต่กรณีที่พ่อค้ารายใดมีเจตนาแตกบัญชีเพื่อให้รายได้ในแต่ละชื่อต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทนั้น ก็ต้องใช้วิธีตรวจสอบโยงความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นรายๆไป
ทั้งนี้ นายธีระชัยเห็นว่า รัฐบาลที่ขยายฐานภาษีอย่างเป็นธรรมนั้น จะต้องเน้นนโยบายแบบ “แผ่กว้าง” ให้คนที่อยู่นอกระบบเข้ามาในระบบมากขึ้น รวมทั้งต้องให้คนรวยแบกภาระภาษีมากกว่าคนจน หรือนโยบายแบบ “ล่างขึ้นบน” ส่วนแนวคิดของรัฐบาลนี้ที่มุ่งรีดเลือดจากคนชั้นล่างโดยไม่บังคับให้คนชั้นบนต้องเข้ามาช่วยรับภาระอันเป็นปรัชญาปกติของรัฐบาลนั้น ถือเป็นนโยบายที่ผิดทฤษฎี
“ประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลมีการตรวจสอบเก็บภาษีจากคนรวยชั้นบนสุดอย่างครบถ้วนแล้วหรือยัง เพราะยังเห็นที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่ราคาแพงที่อยู่ใจกลางเมืองหลายแห่งที่รัฐบาลยังปล่อยให้จัดชั้นเป็นที่ดินเกษตรกรรมเพียงแค่มีการปลูกต้นมะนาว” นายธีระชัยกล่าว
กรณีกระทรวงการคลังต้องการแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณนั้น นายธีระชัยแนะนำนายพิชัยประกาศยุติโครงการแจกเงินหมื่นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทันทีเป็นสิ่งแรก แล้วหาทางประหยัดรายจ่ายโดยการคุมจำนวนและลดงานหน้าที่ของข้าราชการอย่างเข้มงวด หลังจากนั้น ควรเพิ่มอัตราแวตทั่วไปจาก 7% ขึ้นเป็น 8% โดยเพิ่มพิเศษสำหรับสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยขึ้นเป็น 10% ยันเพดาน แทนที่จะใช้นโยบายภาษีแบบ “บนลงล่าง” ตามที่แถลงข่าวไว้ และขอแนะนำให้ศึกษาเรียนรู้หลักการคิดนโยบายภาษีไว้ด้วยเสริมเพิ่มเติมจากความรู้ด้านบัญชีเพราะจำเป็นสำหรับประเทศที่ต้องฝ่าพายุสมบูรณ์แบบที่ตั้งเค้ารออยู่ข้างหน้า
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "โสภณ" ลุยนาโพธิ์บุรีรัมย์ สานต่อยุทธการฟ้าสาง รวมพลังรักศรัทธา ต้านยาเสพติดแบบบูรณาการ 8 พ.ค. 2568
- มหาดไทย เปิดปฏิบัติการ "ZERO GUN" สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุมอาวุธปืนเถื่อน 8 พ.ค. 2568
- มติบอร์ดแพทย์สภา เชือดหมอรักษา "ทักษิณ" ชั้น 14 ลุ้นศาลให้ "แม้ว" ไปต่างประเทศ 8 พ.ค. 2568
- ศาลเยาวชนฯ ราชบุรี มอบเงินสมทบจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้ รพ.ราชบุรี 8 พ.ค. 2568
- ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัย! ตั้งคณะพิจารณาคำขอ "ทักษิณ" เดินทางไปสหรัฐฯ เจรจาภาษีการค้ากับ "ทรัมป์" 8 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา "เทพกระษัตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4" จังหวัดภูเก็ต 19:26 น.
- "ประเสริฐ" สั่งเดินหน้า "โคราชโมเดล" ขับเคลื่อน Learn to Earn ช่วย "เยาวชน" ทุกกลุ่มให้มีโอกาสศึกษา เสมอภาค 18:56 น.
- เสวนาเสรีภาพสื่อ "เสรีภาพสื่อ VS AI Surveillance : ผลกระทบ โอกาส และความท้าทาย" 18:46 น.
- "สมาคมนักข่าวฯ" จัดงานวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ชี้สื่อไทยเสรี-สังคมอ่วมข่าวลวง 18:33 น.
- กสม.ออกแถลงการณ์ประณามผู้ไม่หวังดีกราดยิงกลุ่มเปราะบางตากใบเสียชีวิตและบาดเจ็บ ชี้ขัดกับทุกหลักศาสนา 17:56 น.