เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568  นายธิติ โลหะปิยะพรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับสูง รุ่นที่ 90 โดยมีนางสาวชนชนก จันทร์เพ็ง ผู้อำนวยการสถาบันเกษตราธิการ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ โรงแรม เอบีน่า เฮ้าส์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 

นายธิติ เปิดเผยว่า หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับสูง มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับสูง มีความพร้อมในการเป็นผู้นำทีม และพร้อมที่จะก้าวสู่ตำแหน่งประเภทอำนวยการ หรือตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกัน 2) เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถปรับแนวคิด มุมมองการสื่อสาร บุคลิกภาพ วิธีการทำงาน ตลอดจนวิธีการแก้ปัญหา รองรับภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบที่สูงขึ้น เหมาะสมสอดคล้องกับการบริหารองค์กรภาครัฐในบริบทที่มีความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย 3) เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพร้อมทางด้านภาวะผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง คุณธรรมจริยธรรม มีทัศนคติ ทักษะ ความสามารถและสมรรถนะทางการบริหาร และเป็นแบบอย่างที่ดี 4) เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เข้าใจตนเองและผู้อื่น สามารถใช้กระบวนการสร้างเครือข่ายและระบบพันธมิตรเพื่อบูรณาการการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถถ่ายทอดนโยบายจากระดับสูง ไปสู่ระดับปฏิบัติในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบได้อย่างถูกต้องชัดเจน โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม จำนวน 100 คน จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระยะเวลาจัดอบรมระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 27 มิถุนายน 2568 รวม 28 วัน แบ่งการฝึกอบรมเป็น 4 ช่วงอย่างเข้มข้น อาทิ การรับฟังการบรรยาย ยกตัวอย่างกรณีศึกษา การเสวนา และการฝึกปฏิบัติ 

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายด้านการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงที่ชัดเจนในการที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างมีระบบทั่วถึงและต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะในการปฏิบัติงาน รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิทยาการสมัยใหม่ที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ 

“การอบรมครั้งนี้มุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพ และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักการและเทคนิคด้านการบริหาร รวมทั้งเสริมสร้างคุณลักษณะของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีความพร้อมด้านบริหารจัดการตามแนวทางการพัฒนาระบบราชการให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นผู้บริหารที่มีศักยภาพ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งหมายถึงการเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ รู้ลึก รู้จริง และเมื่อรู้แล้วก็สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากร และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน อันมาจากการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพของบุคลากรภาครัฐ จึงขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาถ่ายทอดความรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้นำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารและการปฏิบัติงานของท่านให้บังเกิดผลต่อไป” นายธิติ กล่าว