การเมือง
หวั่น “ปราจีนบุรี” กลายเป็นถังขยะ EEC ประชาสังคมปราจีนบุรี คัดค้านขยายพื้นที่อุตสาหกรรม เปิดช่องทุนจีน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

หวั่น “ปราจีนบุรี” กลายเป็นถังขยะ EEC ประชาสังคมปราจีนบุรี คัดค้านขยายพื้นที่อุตสาหกรรม เปิดช่องทุนจีน กระทบสิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจท้องถิ่น ด้าน รองผวจ.ปราจีนฯ ย้ำพร้อมสนับสนุนภาคประชาชน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรีรวมตัวเข้ายื่นหนังสือต่อผู้นำท้องถิ่นและผู้ว่าราชการจังหวัด คัดค้านการเสนอให้ปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ขยายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมเรียกร้องให้ยุติการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) โครงการจัดจ้างที่ปรึกษาจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขต EEC จนกว่าจะมีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) อย่างมีส่วนร่วมจากประชาชน
การยื่นหนังสือดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 10.00 น. โดยตัวแทนภาคประชาชนในแต่ละอำเภอของจังหวัดปราจีนบุรี อาทิ นายวิโรจน์ น้อยสำเนียง จากกลุ่มรักเมืองปราจีนบุรี, นางสาววุรุณี พาวงษ์บล จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลดงบัง, นายชัยกุล ฤทธิ์มังกร จากตำบลบุพราหมณ์, นางระตะนะ ศรีวรกุล ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์จังหวัด, นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม จากกลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็ง และตัวแทนจากกลุ่มต่าง ๆ ในแต่ละอำเภอ รวมทั้งสิ้น 7 แห่ง
ต่อมาในเวลา 14.00 น. ตัวแทนทั้งหมดได้เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยมี นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ออกมารับหนังสือในนามของจังหวัด โดยระบุว่า นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัด ติดภารกิจสำคัญ ไม่สามารถมารับด้วยตนเอง โดยเนื้อหาในหนังสือเรียกร้องให้ยุติหรือระงับกระบวนการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขยายพื้นที่เขต EEC จนกว่าจะมีการศึกษา SEA ที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วมของภาคประชาชนทุกระดับ โดยเสนอให้จัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อดี-ข้อเสียระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมอย่างโปร่งใส
นายชนาธิปกล่าวต่อหน้าภาคประชาสังคมว่า ตนยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะและพร้อมสนับสนุนทุกแนวทางที่ทำให้จังหวัดปราจีนบุรีดีขึ้น โดยระบุว่า อะไรที่ทำให้ปราจีนฯ ดีขึ้น ตนก็ยินดีจะทำ ถ้าเข้ามาแล้วไม่ทำให้ดีขึ้น ก็ไม่ควรอยู่ ควรจะย้ายไปที่อื่น อะไรที่ช่วยให้คนปราจีนอยู่ดีมีสุข ตนพร้อมสนับสนุน
เมื่อภาคประชาสังคมสอบถามถึงท่าทีของจังหวัดต่อแนวโน้มการขยายพื้นที่ EEC และความกังวลเรื่องนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ “ทุนจีนเทา” ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม นายชนาธิป กล่าวว่า เรื่องที่ประชาชนกังวล เช่น ทุนต่างชาติหรือทุนจีนเทา ถ้าถามว่าเป็นความจริงไหม ก็ต้องบอกว่าถ้ามีมูลก็ไม่ปฏิเสธ เราไม่ควรแค่ตั้งข้อสงสัย แต่ควรร่วมกันกำหนดแนวทางว่าจะป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่อย่างไร และจะแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วอย่างไรให้หมดไป สำหรับกรณีทุนจีนเทานั้น หากมีการเปิดเสรีให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน โดยย้ำว่า“ความถูกต้องคือการทำตามกฎหมาย แต่ความชอบธรรม เป็นเรื่องของความรู้สึกและสามัญสำนึกด้วย”
“ในฐานะคนปราจีนโดยกำเนิด ผมมีความห่วงใยต่อทิศทางการพัฒนาของจังหวัด โดยเฉพาะเมื่อ EEC อาจเข้ามาเกี่ยวข้องกับหลากหลายประเด็นสำคัญ เช่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การถือครองที่ดิน การคมนาคม รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งความเจริญที่เข้ามา อาจเป็นเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งคือการพัฒนา แต่อีกด้านหนึ่งคือความเสื่อมโทรม ความวุ่นวาย และผลกระทบทางสังคมที่ตามมา” รองผู้ว่าฯ กล่าว
นายวิโรจน์ น้อยสำเนียง ตัวแทนกลุ่มรักเมืองปราจีนบุรี ชี้ว่ากฎหมาย EEC จะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง เนื่องจากมีอำนาจยกเลิกผังเมืองเดิมและจัดทำผังการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่โดยไม่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ส่งผลให้พื้นฐานเศรษฐกิจของภาคตะวันออก เช่น เกษตรกรรมและการท่องเที่ยว ถูกลดความสำคัญและอาจเสียสิทธิในที่ดิน
นายชัยกุล ฤทธิ์มังกร ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลบุพราหมณ์ กล่าวว่า กฎหมาย EEC สะท้อนแนวคิดของรัฐที่เน้นอำนวยประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ เช่น การให้สิทธิถือครองที่ดิน 99 ปี และยกเลิกอาชีพสงวนของคนไทย ซึ่งจะยิ่งทำให้ทรัพยากรจำกัดอย่างที่ดินและน้ำตกอยู่ในมือกลุ่มทุนเพียงไม่กี่ราย ขัดต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก
ด้านนางระตะนะ ศรีวรกุล ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์จังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่า ปราจีนบุรีเป็นแหล่งผลิตอาหารและสมุนไพรสำคัญของประเทศ มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว แต่การขยายพื้นที่อุตสาหกรรมจะยิ่งทำลายระบบนิเวศ เกิดมลพิษในแม่น้ำ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรวม
ขณะที่ นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม จากกลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็ง เผยว่า อำเภอศรีมหาโพธิซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากอยู่แล้ว ยังเผชิญกับปัญหามลพิษซ้ำซาก ทั้งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย และเสียงดัง โดยเฉพาะการเข้ามาของ “ทุนจีนเถื่อน-จีนเทา” ที่ดำเนินกิจกรรมรีไซเคิล หล่อหลอม และฝังกลบขยะอุตสาหกรรม ยิ่งสร้างภาระให้ชุมชน หากยังเดินหน้าผลักดันให้เป็นเขต EEC อาจทำให้ปราจีนบุรีกลายเป็น “ถังขยะอุตสาหกรรม” ของกลุ่มทุนต่างชาติในอนาคต
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "พิชัย" จี้แบงก์รัฐหั่นกำไร ช่วยผู้ส่งออกลดผลกระทบปมภาษีสหรัฐ 15 พ.ค. 2568
- ศาลออกหมายจับ "เปรมชัย กรรณสูต" พร้อมวิศวกร-ผู้คุมงาน เอี่ยวคดีตึก สตง. ถล่ม 15 พ.ค. 2568
- "สารัชถ์" พบ "ทรัมป์" ที่กาตาร์ เผยบรรยากาศเจรจา 2 ชาติทิศทางดี 15 พ.ค. 2568
- หวั่น “ปราจีนบุรี” กลายเป็นถังขยะ EEC ประชาสังคมปราจีนบุรี คัดค้านขยายพื้นที่อุตสาหกรรม เปิดช่องทุนจีน 15 พ.ค. 2568
- พาณิชย์ผนึก TDRI เปิดเวทีระดมความคิดเห็น ผลักดันนโยบาย หนุนการค้ามันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 15 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"อัครา" เร่งพัฒนาลุ่มน้ำอิงตอนบน นำร่องใช้โซล่าเซลล์กระจายระบบน้ำสู่แปลงเกษตรกร 19:08 น.
- “อนุทิน” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง -พระราชินี” ทรงให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้และของขวัญพระราชทานเยี่ยมไข้ 16:56 น.
- ปมฮั้วเลือก สว. สะเทือนรัฐสภา "สรชาติ-บุญจันทร์" ยันไร้มลทิน "เพื่อไทย" ชี้ความเชื่อมั่นใกล้หมด 16:04 น.
- "ธรรมนัส" รับฟังปัญหาหนองน้ำสาธารณะหนองหลวงเชียงราย 15:36 น.
- การอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ ในการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี 14:40 น.