วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 21:25 น.

การเมือง

ศาลออกหมายจับ "เปรมชัย กรรณสูต" พร้อมวิศวกร-ผู้คุมงาน เอี่ยวคดีตึก สตง. ถล่ม

วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.58 น.

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568  จากกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวโดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมาร์ แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลทำให้อาคารก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีความสูง 30 ชั้น ทรุดตัวถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น

พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น. มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ต. สมควร พึ่งทรัพย์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ทำการสอบสวนในคดีดังกล่าว

จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคารไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่ามีมาตรฐานตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐานที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต ผลการตรวจปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีตไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และการตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่เป็นไปตามแบบเช่นกัน และจากการตรวจลายมือชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบมีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน

จากหลักฐานข้างต้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำ มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิดดังนี้

กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ

บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง

กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 รายในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ตกลงยินยอมรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี โดย 3 บริษัท ประกอบด้วย

1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด
2. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
3. บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย
กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง
1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2. บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และผู้มีอำนาจกระทำการแทนกิจการร่วมค้า ITD-CREC
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย

อย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ค้นพบแล้วจำนวน 89 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย สูญหาย 11 ราย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว ในฐาน "เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย" อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227, 238

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 17 ราย ปรากฏชื่อนายเปรมชัย กรรณสูตด้วย ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บ.อิตาเลียนไทยฯ.
 

หน้าแรก » การเมือง