การเมือง
"ประเสริฐ" สั่งเดินหน้า "WebD" แพลตฟอร์ม AI สกัดเว็บเถื่อนเพิ่มขึ้นอีก 70 %
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

"ประเสริฐ" สั่งเดินหน้า "WebD" แพลตฟอร์ม AI สกัดเว็บเถื่อน เพิ่มประสิทธิภาพปกป้องประชาชน ลดขั้นตอนการทำงาน ปิดกั้นเว็บผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอีก 70 %
วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยผลเป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงดีอี (Top Executives) ครั้งที่ 6/2568 โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี , ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดีอี , ดร.ปิยนุช วุฒิสอน รองปลัดกระทรวงดีอี พร้อมคณะผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดีอี เข้าร่วมเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า กรณีที่่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงดีอี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเจ้าภาพการจัดงาน ‘The 3rd Global Forum on the Ethics of AI 2025’ ร่วมกับยูเนสโก ได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมทั้งคำชื่นชมจากยูเนสโก ผู้นำประเทศ และเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ทั้งนี้กระทรวงดีอี พร้อมเดินหน้าการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักการการกำกับดูแลด้วยจริยธรรม AI โดยขณะนี้ได้ดำเนินการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการระงับการแพร่หลายและตรวจสอบการเข้าถึงเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า ‘WebD Project’ ในรูปแบบแพลตฟอร์ม
สำหรับแพลตฟอร์ม ‘WebD’ เป็นแพลตฟอร์มเร่งรัดกระบวนการระงับเว็บไซต์ผิดกฎหมายซึ่งมีมากกว่า 100,000 URLs ต่อปี โดยใช้เทคโนโลยี AI และ RPA ในการค้นหา เก็บหลักฐาน สร้างคำร้องต่อศาลแบบ Paperless และส่งคำสั่งไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) โดยอัตโนมัติ พร้อมมีระบบ ‘URLs Checker’ เพื่อตรวจสอบการปิดกั้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นคือสามารถทำงานได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ถึง 31.5 เท่า ช่วยลดขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลลงได้ 5 วันทำการ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวน URLs ที่ถูกสั่งปิดในปี 2568 ได้ถึงร้อยละ 70.7 จากเดิมในปี 2567 (โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 175 URLs)
นอกจากนี้ ‘WebD’ ยังมีระบบค้นหาและจัดเก็บหลักฐานเว็บไซต์ผิดกฎหมาย (AI Crawler) ซึ่งใช้ในการตรวจสอบ URLs ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย (เทียบเท่าการทำงานโดยเจ้าหน้าที่จำนวน 94 คน) ก่อนส่งต่อไปยังระบบแอปพลิเคชัน สำหรับตรวจสอบ/กลั่นกรองเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยื่นคำร้องต่อศาล (สร้างคำร้องส่งต่อไปยังศาลอาญาผ่านระบบออนไลน์) กระบวนการสั่งปิด (ระบบส่งคำสั่งศาลไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และกระบวนการปรับพินัย โดยเป็นการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี AI ร่วมกับการทำงานของเจ้าหน้าที่
“การใช้งานแพลตฟอร์ม WebD จะช่วยให้กระบวนการทำงานในการระงับ ปิดกั้นเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเว็บไซต์ผิดกฎหมายเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงดีอีให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อประชาชน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
นายประเสริฐ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาประเด็นที่สำคัญ คือ 1.การเร่งรัดดำเนินการใช้งาน แพลตฟอร์มป้องกันการโทรหลอกลวง ‘DE-fence platform’ อย่างเต็มระบบ ซึ่งขณะนี้เปิดให้ประชาชนได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใช้งานในระบบ BETA และเตรียมพร้อมให้ประชาชนใช้งานเต็มระบบในเร็วๆนี้
สำหรับ “DE-fence platform”เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการแจ้งเตือนประชาชน ช่วยในการคัดกรองสายเรียกเข้า และข้อความสั้น (SMS) ของคนร้าย รวมถึงช่วยยืนยันเบอร์โทรจากหน่วยงานสำคัญ เช่น ตำรวจ หรือ สถาบันการเงิน เป็นต้น
2.การติดตามตรวจสอบเรื่องข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศ ไทย-กัมพูชา กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด โดยได้ตรวจสอบข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม/บิดเบือน 42 เรื่อง ซึ่งได้ดำเนินการส่งปิดกั้นรวม 29 URLs เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน และ 3.การแจ้งเตือนเรื่องภัยพิบัติ และภัยทางธรรมชาติ ขณะนี้กระทรวงดีอี โดยกรมอุตุนิยมได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเข้ากับแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประกอบด้วยการให้บริการ 3 ประเภท ได้แก่ พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วัน เส้นทางเดินพายุ และข้อมูลแผ่นดินไหว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "ภูมิธรรม" รักษาการนายกฯแบ่งงานใหม่ "สุชาติ" ดู "สำนักพุทธฯ-อสมท." 6 ก.ค. 2568
- รักชาติต้องไปชายแดน! "กันจอมพลัง" สวนเสียงวิจารณ์ ปมช่วยทหาร-ตำรวจชายแดน 6 ก.ค. 2568
- กต.ชี้แจงท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จัดระเบียบโลกไซเบอร์ ทำคู่มือแนวตอบโต้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ 6 ก.ค. 2568
- "ธีรรัตน์" ยืนยันการให้สัญชาติตามมติ ครม. 29 ต.ค. 67 มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ได้เป็นการให้สัญชาติแรงงานต่างด้าว 6 ก.ค. 2568
- “สุรเดช” รองหัวหน้าพลังประชารัฐ ลั่น ไร้นิติสงคราม ชี้ เป็นเพียงวาทกรรม 6 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.มหานิยม" ลงพื้นที่ติดตามข้อพิพาทที่ดินวัดดอยธรรมเจดีย์ ย้ำทุกขั้นตอนต้องชัดตามกฎหมาย – พระสงฆ์สายวิปัสสนาชี้วัดดูแลป่ามาตลอด 20:16 น.
- "อรรรถกร" ลุยสั่งการ ส.ป.ก.สระแก้ว เร่งจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.แปลงว่างอย่างเป็นธรรม เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ 20:11 น.
- "ประภัตร" ประกาศพร้อมสละเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา "อนุชา-วราวุธ" วอนอย่าเพิ่งลาจาก 20:06 น.
- กองทัพภาค 2 ยันไม่ปิดกั้นส่งยา ช่องจอมเดินหน้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านตามหลักมนุษยธรรม 19:01 น.
- กต.ยันไทยแจง UN ครบถ้วน ปมกัมพูชาส่งหนังสือฟ้องปมชายแดน 18:29 น.