การเมือง
"ประธานชีวะภาพ"ยกโมเดลยุโรปผลักดันไทยพลิกโฉมการรับมือปัญหาสิ่งแวดล้อม
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

"ประธานชีวะภาพ" นำ กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา หิ้วองค์ความรู้บริหารจัดการน้ำจากยุโรป เตรียมผลักดันรัฐบาลไทยเปลี่ยนโฉมการรับมือปัญหาสิ่งแวดล้อม
ช่วงเช้าเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ และ นายจำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางเยือนศาลาว่าการเมืองบรูจส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ มิสเตอร์ พาโปล แอนนีส์ เทศมนตรีด้านกิจการทางสังคม ความเป็นอยู่ที่ดี ที่อยู่อาศัย พลังงานและสภาพภูมิอากาศ ของเมืองบรูจส์ และรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการ Blue4Green ที่ มุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อการจัดการภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม กล่าว จากการศึกษาดูงานคณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบถึงแนวคิดและปฏิบัติที่น่าสนใจจากการบริหารจัดการน้ำของทั้งเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์แหล่งน้ำ การที่ประเทศเหล่านี้ไม่ถมแหล่งน้ำและมีคลองจำนวนมากนั้น สะท้อนถึงปรัชญาการใช้ชีวิตร่วมกับน้ำอย่างชาญฉลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษาภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอย่างบรูจส์และอัมสเตอร์ดัมไว้เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งท่องเที่ยวและวิถีชีวิตที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ผิวน้ำในคลองช่วยดูดซับความร้อนและระบายความร้อนออกไป ทำให้พื้นที่รอบคลองมีอุณหภูมิที่เย็นสบายกว่าบริเวณอื่น ๆ และคลองจำนวนมากและระบบโครงสร้างที่เชื่อมโยงกัน ทำหน้าที่เป็น พื้นที่รับน้ำชั่วคราว ในช่วงที่มีฝนตกหนักหรือน้ำหลากจากแม่น้ำ การที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำอย่างชาญฉลาดนี้ ประเทศไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและส่งเสริมความยั่งยืนของเมืองในอนาคต
“คณะกรรมาธิการฯ ได้ค้นพบจุดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่งที่คาดว่าจะนำมาเป็นแนวทางผลักดันในประเทศไทย นั่นคือ ระบบสมาร์ทซิตี้ของบรูจส์ที่ใช้ในการตรวจสอบและบริหารจัดการน้ำ ระบบดังกล่าวมีความสามารถในการ ตรวจสอบคุณภาพของน้ำอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบสิ่งปนเปื้อนหรือความผิดปกติใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ระบบจะทำการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ในกรณีที่มี น้ำหลาก หรือสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่น้ำท่วม ระบบยังสามารถประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้ทันที การทำงานแบบเรียลไทม์และสามารถแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันความเสียหายและช่วยให้ประชาชนเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที คณะกรรมาธิการฯ มองว่าระบบสมาร์ทซิตี้เพื่อการบริหารจัดการน้ำนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีแผนที่จะนำองค์ความรู้และรูปแบบการทำงานของระบบนี้ไป ผลักดันให้ภาครัฐของประเทศไทยนำไปปรับใช้ ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อยกระดับความสามารถในการรับมือกับความท้าทายด้านน้ำท่วม ภัยแล้ง และปัญหามลภาวะทางน้ำของประเทศในอนาคต” ประธานชีวะภาพ กล่าว
ในช่วงบ่าย คณะกรรมาธิการฯ เดินทางไปยังที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการปัญหามลพิษภายใต้กรอบอนุสัญญาระหว่างประเทศ การจัดการขยะและของเสีย รวมถึงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหภาพยุโรปและราชอาณาจักรเบลเยียม โดยนางกาญจนา ภัทรโชค เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์และคณะอัครราชทูตที่ปรึกษา
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ได้เปิดเผยถึงแนวทางการทำงานเร่งด่วนภายหลังการศึกษาดูงานที่ประเทศเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ โดยเน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญสองส่วนที่จะนำไปผลักดันต่อในประเทศไทย โดยสิ่งแรกที่คณะกรรมาธิการฯ จะต้องลงมือผลักดันคือ การแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย จากการเรียนรู้ประสบการณ์ของเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศปลายน้ำที่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษจากประเทศต้นน้ำเช่นกัน ทั้งสองประเทศเลือกใช้แนวทางการเจรจาแบบทวิภาคี ในการจัดการปัญหา คณะกรรมาธิการฯ จึงเห็นว่าประเทศไทยควรนำแนวทางเดียวกันนี้มาปรับใช้เพื่อหารือและร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายอย่างจริงจังและยั่งยืน
นอกจากนี้ อีกประเด็นสำคัญที่คณะกรรมาธิการฯ จะนำไปศึกษาต่อคือ บรรดากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป เนื่องจากยุโรปมีกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งและครอบคลุมหลายมิติ คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาว่าประเด็นใดบ้างในกฎหมายเหล่านั้นที่สามารถ ปรับมาใช้หรือเพิ่มเติม ในกฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพื่อยกระดับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในประเทศให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงมาตรการควบคุมมลพิษ การจัดการของเสีย การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือกลไกทางเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
"การศึกษาดูงานและประชุมทวิภาคีในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ดี แต่ยังเป็นการนำบทเรียนจากการเจรจาและกรอบกฎหมายระหว่างประเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและวางรากฐานการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของประเทศไทยในระยะยาว" นายชีวะภาพกล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "ภูมิธรรม" รักษาการนายกฯแบ่งงานใหม่ "สุชาติ" ดู "สำนักพุทธฯ-อสมท." 6 ก.ค. 2568
- รักชาติต้องไปชายแดน! "กันจอมพลัง" สวนเสียงวิจารณ์ ปมช่วยทหาร-ตำรวจชายแดน 6 ก.ค. 2568
- กต.ชี้แจงท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จัดระเบียบโลกไซเบอร์ ทำคู่มือแนวตอบโต้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ 6 ก.ค. 2568
- "ธีรรัตน์" ยืนยันการให้สัญชาติตามมติ ครม. 29 ต.ค. 67 มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ได้เป็นการให้สัญชาติแรงงานต่างด้าว 6 ก.ค. 2568
- “สุรเดช” รองหัวหน้าพลังประชารัฐ ลั่น ไร้นิติสงคราม ชี้ เป็นเพียงวาทกรรม 6 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.มหานิยม" ลงพื้นที่ติดตามข้อพิพาทที่ดินวัดดอยธรรมเจดีย์ ย้ำทุกขั้นตอนต้องชัดตามกฎหมาย – พระสงฆ์สายวิปัสสนาชี้วัดดูแลป่ามาตลอด 20:16 น.
- "อรรรถกร" ลุยสั่งการ ส.ป.ก.สระแก้ว เร่งจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.แปลงว่างอย่างเป็นธรรม เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ 20:11 น.
- "ประภัตร" ประกาศพร้อมสละเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา "อนุชา-วราวุธ" วอนอย่าเพิ่งลาจาก 20:06 น.
- กองทัพภาค 2 ยันไม่ปิดกั้นส่งยา ช่องจอมเดินหน้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านตามหลักมนุษยธรรม 19:01 น.
- กต.ยันไทยแจง UN ครบถ้วน ปมกัมพูชาส่งหนังสือฟ้องปมชายแดน 18:29 น.