วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:27 น.

การเมือง

วิเคราะห์วัฒนธรรมสร้างสรรค์กับวัฒนธรรมสงคราม: กรณีศึกษา Soft Power ไทยและความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา

วันเสาร์ ที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.40 น.

บทนำ

ในยุคโลกาภิวัตน์ การส่งเสริมศักยภาพชาติไม่ได้พึ่งเพียงกำลังทางเศรษฐกิจหรืออำนาจทางทหาร หากแต่ต้องอาศัย “อำนาจละมุน” (Soft Power) เพื่อสร้างอิทธิพล ความชื่นชม และความร่วมมือผ่านวัฒนธรรม ภาษา ความคิดสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์ประจำชาติ งาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 จึงเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้วัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Culture) เป็นกลยุทธ์พัฒนาเศรษฐกิจและเสริมภาพลักษณ์บนเวทีโลก

ในขณะเดียวกัน ประวัติศาสตร์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังสะท้อนความขัดแย้งชายแดนที่ยืดเยื้อ เช่น กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งสะท้อนการใช้ “วัฒนธรรมสงคราม” (Culture of War) โดยเน้นอำนาจทางการเมือง ความชอบธรรมทางประวัติศาสตร์ และการปกป้องอัตลักษณ์ด้วยวิธีการเผชิญหน้า
บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมสร้างสรรค์กับวัฒนธรรมสงคราม โดยเทียบเคียงกรณีงานมหกรรม Soft Power ของไทยกับความขัดแย้งชายแดน เพื่อชี้ให้เห็นทางเลือกและข้อจำกัดในการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ


แนวคิดทฤษฎี: วัฒนธรรมสร้างสรรค์ vs. วัฒนธรรมสงคราม

1. วัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Culture)

เป็นแนวคิดที่ใช้ทุนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นทรัพยากรเศรษฐกิจ สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อประชาคมโลก ลดความขัดแย้งผ่านความเข้าใจร่วมกัน ตัวอย่างเช่น

  • อุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ 14 สาขาที่ SPLASH Forum นำเสนอ ได้แก่ อาหาร ดนตรี ภาพยนตร์ แฟชั่น และการท่องเที่ยว

  • หลักสูตร Workshop & Masterclass โครงการ “One Family One Soft Power (OFOS)” ที่สร้างโอกาสการเรียนรู้ร่วมกันข้ามรุ่นและข้ามพรมแดน

  • Glo-Cal Networking ที่เชื่อมโยงนักลงทุน ผู้ประกอบการ และผู้กำหนดนโยบายในเวทีนานาชาติ

เป้าหมายสำคัญคือ การใช้วัฒนธรรมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ยกระดับอัตลักษณ์ประเทศ และสร้างพันธมิตรโดยไม่ต้องพึ่งอำนาจบังคับ

2. วัฒนธรรมสงคราม (Culture of War)

เป็นแนวคิดที่วัฒนธรรมถูกนิยามให้มีบทบาทเสริมความ正当 (Legitimacy) ในการเผชิญหน้า เช่น

  • ความเชื่อในสิทธิทางประวัติศาสตร์เหนือพื้นที่ หรือโบราณสถาน

  • การระดมความรู้สึกชาตินิยมเพื่อปกป้องอัตลักษณ์

  • การใช้สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมประกอบข้อเรียกร้อง領土 (Territorial Claims)

กรณีพิพาทปราสาทพระวิหารสะท้อนตัวอย่างเด่น เมื่อพื้นที่โบราณสถานถูกใช้เป็น “สนามต่อสู้ทางวาทกรรม” เพื่อยืนยันอำนาจอธิปไตย ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ความขัดแย้งบานปลายถึงขั้นปะทะทางทหารและสร้างความบาดหมางระยะยาว


การเปรียบเทียบ: SPLASH Soft Power Forum กับกรณีพิพาทชายแดน

ประเด็น วัฒนธรรมสร้างสรรค์: SPLASH Soft Power Forum วัฒนธรรมสงคราม: พิพาทปราสาทพระวิหาร
เป้าหมายหลัก การยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์และสร้างความร่วมมือ การปกป้องดินแดนและอัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์
เครื่องมือ เครือข่ายธุรกิจ เสวนา สื่อสร้างสรรค์ เทคโนโลยี วาทกรรมสิทธิทางประวัติศาสตร์ ความเชื่อชาตินิยม
ผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ เสริมภาพลักษณ์เชิงบวก สร้างความน่าเชื่อถือระดับโลก สร้างความขัดแย้ง สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค
กระบวนการ การแลกเปลี่ยนความรู้ การร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน การเจรจาต่อรอง การใช้กำลัง การระดมมวลชน
ผลกระทบระยะยาว เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเครือข่ายความสัมพันธ์ ความหวาดระแวงและความไม่ไว้วางใจข้ามพรมแดน


ข้อสังเกตเชิงวิเคราะห์

  1. Soft Power ไม่ใช่เพียงเครื่องมือเศรษฐกิจ
    หากนำมาใช้อย่างเป็นระบบ Soft Power สามารถลดความตึงเครียดทางการเมืองและสร้าง “วัฒนธรรมสันติภาพ” โดยการให้ความสำคัญกับคุณค่าร่วมกันแทนที่จะเน้นความแตกต่าง

  2. ข้อจำกัดของวัฒนธรรมสร้างสรรค์
    ในบริบทความขัดแย้งชายแดน การใช้วัฒนธรรมสร้างสรรค์มักถูกบดบังด้วยวัฒนธรรมสงครามที่หยั่งรากลึกในจิตสำนึกสาธารณะ และความหวาดระแวงระหว่างประเทศ

  3. ความจำเป็นของสมดุลระหว่างอัตลักษณ์กับความร่วมมือ
    กรณี SPLASH Forum ชี้ให้เห็นว่า วัฒนธรรมสร้างสรรค์สามารถพัฒนาเศรษฐกิจพร้อมกับเสริมอัตลักษณ์ได้โดยไม่ต้องใช้วาทกรรมเผชิญหน้า


บทสรุป

บทเรียนจากงาน SPLASH Soft Power Forum 2025 และความขัดแย้งปราสาทพระวิหาร สะท้อนให้เห็น 2 ทางเลือกหลักในการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ คือ

  • การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจผ่านความร่วมมือ ความคิดสร้างสรรค์ และ Soft Power

  • การใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือสร้างความ正当ในการเผชิญหน้าและปกป้องอัตลักษณ์

สำหรับอนาคต ความท้าทายของไทยอยู่ที่การถักทอวัฒนธรรมสร้างสรรค์เข้ากับนโยบายต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง เพื่อสร้างภูมิภาคที่ “อัตลักษณ์เข้มแข็ง แต่ไม่เผชิญหน้า” และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

หน้าแรก » การเมือง