เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568   นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยยืนยันเดินหน้า “ขุดรากถอนโคน” แก๊งต้มตุ๋นที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมดำเนินการตามนโยบาย “ตัดน้ำ-ไฟ-เน็ต-น้ำมัน” เพื่อสกัดการปฏิบัติการของกลุ่มเหล่านี้โดยเด็ดขาด

ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้ขยายผลการสอบสวนจนสามารถขออนุมัติหมายจับ “ก๊ก อาน” (MR. Kok An) สัญชาติกัมพูชา เจ้าพ่อคาสิโนในเมืองปอยเปต ผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีฐานอยู่ตรงข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

ตำรวจได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 19 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย “ก๊ก อาน” ที่มีความเกี่ยวข้องกับอาคารขนาดใหญ่ในเครือ Crown Casino Resort อาทิ ตึก 25 ชั้น ตึก 18 ชั้น และตึก Hiso ที่ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของขบวนการฉ้อโกงระดับโลก

นายจิรายุ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งชัดเจนตั้งแต่ 3 เดือนก่อน ให้ทุกหน่วยงานเร่งปราบปรามและจับกุมกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังพบว่ามีการดำเนินการหลอกลวงในหลายรูปแบบ ทั้งการโทรศัพท์หลอก โฆษณาหลอกผ่านจดหมาย และ SMS ที่ยังคงปรากฏอยู่ในสังคมไทย

รัฐบาลยังคงใช้มาตรการปิดเส้นทางสนับสนุนทางเทคนิคของขบวนการเหล่านี้ ด้วยการตัดระบบสื่อสารและพลังงาน โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนตะวันตกและตะวันออก รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์การสหประชาชาติ (UNOCS) และองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เคยระบุว่ากัมพูชาเป็นแหล่งใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“รัฐบาลไทยจะร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อจัดการกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่การจับรายบุคคล แต่คือการทำลายเครือข่ายที่คุกคามประชาชนทั่วโลก” นายจิรายุกล่าวย้ำ