เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน โดยระบุว่า การเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในมิติของการลงทุนและความไว้วางใจจากประชาชน พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยังเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม แม้ยังมีประเด็นคดีความบางส่วนที่ทำให้ประชาชนต้องรอดูท่าทีของกระบวนการยุติธรรม

ในประเด็นกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งกำลังเผชิญทั้งแรงกดดันจากภายในและภายนอกพรรค นายเศรษฐาเผยว่า ได้พูดคุยและให้กำลังใจแล้ว โดยยืนยันว่า น.ส.แพทองธารมีกำลังใจเต็มเปี่ยม และพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศต่อไป

ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ยังตอบโต้กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ออกมาโพสต์พาดพิงว่า การที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงเป็นผลจากแนวคิดเรื่อง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่รวมถึงกาสิโน โดยนายเศรษฐาโต้ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เนื่องจากโครงการกาสิโนยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และไม่ใช่เหตุที่กระทบการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว พร้อมชี้ว่า ประเด็นหลักอยู่ที่ความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ

เขายังกล่าวถึงโครงการ “สุขุมวิทโมเดล” ซึ่งได้รับการผลักดันโดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ รวมถึงควบคุมสินค้าไม่เหมาะสม เช่น เซ็กส์ทอย ยาเสพติด และกัญชา โดยจะขยายแนวทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่, ป่าตอง จ.ภูเก็ต และเยาวราช จ.กรุงเทพฯ

ในส่วนของอนาคตทางการเมือง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นและต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาแสดงความเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ สำรองอีกอย่างน้อย 3 คน โดยเฉพาะนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อที่พร้อมรับไม้ต่อหากสถานการณ์จำเป็น

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีการพูดคุยกับนายชัยเกษมบ้างหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยโดยตรง แต่ได้พบกันครั้งล่าสุดในที่ประชุมพรรคและกล่าวทักทายตามปกติ พร้อมเผยว่านายชัยเกษมยังคงมีสุขภาพแข็งแรง และดูสดใส

สำหรับภาพที่ปรากฏว่านายชัยเกษมออกไปตีกอล์ฟนั้น นายเศรษฐาชี้แจงว่า เป็นกิจกรรมที่นายชัยเกษมทำเป็นประจำอยู่แล้ว และมีผู้ถ่ายภาพไปเผยแพร่เท่านั้น ไม่มีนัยทางการเมืองใด ๆ