การเมือง
ถึงเวลาทำสงครามทางวัฒนธรรมกับกัมพูชาเพื่อปกป้องมรดกของชาติไทย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ความขัดแย้งเชิงวัฒนธรรมระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีมรดกทางวัฒนธรรม เช่น ปราสาทพระวิหาร นาฏศิลป์โขน มวยไทย และสินทรัพย์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ได้กลายเป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์ที่ไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์แนวทางการทำสงครามทางวัฒนธรรม (Cultural Warfare) ที่ไม่ใช่การปะทะด้วยอาวุธ แต่เป็นการปกป้องอัตลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยผ่านยุทธศาสตร์ “Soft Power”, การทูตวัฒนธรรม และการขับเคลื่อนเชิงนโยบายทั้งในและต่างประเทศอย่างเป็นระบบ
1. บทนำ
“สงครามทางวัฒนธรรม” (Cultural War) หมายถึง ความขัดแย้งหรือการแข่งขันเพื่อครอบครอง อธิบาย หรือให้ความหมายต่อวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ โดยอาจเกิดขึ้นผ่านการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ เช่น การยื่นจดทะเบียนมรดกโลก การบิดเบือนประวัติศาสตร์ หรือการสร้างวาทกรรมผ่านสื่อ กรณีประเทศไทยและกัมพูชา มีความขัดแย้งด้านวัฒนธรรมที่สะสมมายาวนาน เช่น ปราสาทพระวิหาร โขน รำไทย มวยไทย และคำอธิบายความเป็นเจ้าของทางวัฒนธรรมที่ทับซ้อน
2. กรอบแนวคิดในการวิเคราะห์
2.1 วัฒนธรรมกับอำนาจ
Joseph Nye (2004) นิยาม “Soft Power” ว่าเป็นความสามารถในการทำให้ผู้อื่น “อยากทำ” ตามสิ่งที่เราต้องการโดยไม่ใช้กำลัง ในบริบทไทย กรณีโขนหรือมวยไทย ถือเป็นการขับเคลื่อน “อำนาจทางวัฒนธรรม” เพื่อสร้างอิทธิพลและการยอมรับจากนานาชาติ
2.2 ความมั่นคงเชิงวัฒนธรรม
แนวคิด “Cultural Security” เน้นว่าการปกป้องวัฒนธรรมเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมถึงภาษา ประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ และจิตวิญญาณของชาติ
3. วิเคราะห์สถานการณ์
3.1 กรณีพิพาททางมรดกโลก
กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยกัมพูชาในปี 2551 แม้จะได้รับการรับรองจากยูเนสโก แต่กลับก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนไทยจำนวนมาก เพราะพื้นที่โดยรอบปราสาทยังเป็นเขตพิพาท ปัญหานี้สะท้อนถึงการใช้ “สงครามเอกสาร” และการสร้างวาทกรรมเพื่อช่วงชิงความ正当ทางประวัติศาสตร์
3.2 สงคราม Soft Power: โขนและมวยไทย
กัมพูชายื่นจดทะเบียน “โขน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในยูเนสโก ปี 2561 โดยอ้างว่าเป็น “Khon Khmer” แม้ไทยจะมีรูปแบบและระบบการสืบทอดที่เป็นทางการยาวนาน เช่นเดียวกับมวยไทย ที่กัมพูชาพยายามผลักดัน “Kun Khmer” เข้าสู่เวทีนานาชาติ เช่น ซีเกมส์ 2023 ทั้งสองกรณีสะท้อนถึงการแข่งขันเชิงสัญลักษณ์เพื่อครอบครองความหมายทางวัฒนธรรม
4. แนวทางการตอบโต้และปกป้อง
4.1 เสริมสร้างกลไกทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy)
รัฐบาลควรจัดตั้ง “ศูนย์ทูตวัฒนธรรมไทย” ประจำประเทศเพื่อนบ้านและในองค์กรระดับโลก เพื่อเผยแพร่ข้อมูลประวัติศาสตร์ วรรณคดี ภาษา และระบบการสืบทอดวัฒนธรรมไทย โดยอิงหลักฐานทางวิชาการและโบราณคดี
4.2 ยกระดับมาตรฐานการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญา
ควรเร่งจดทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (ICH) ที่มีความเสี่ยงถูกอ้างกรรมสิทธิ์ เช่น โขน มวยไทย เพลงพื้นบ้าน ผ้าทอ รวมถึงระบบครูบาอาจารย์ให้มากขึ้นในระดับยูเนสโก ทั้งนี้ต้องมีการร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานศิลปากร และภาควิชาการ
4.3 สร้าง Narrative สู้กลับ
การเล่าเรื่อง (Cultural Narrative) เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Soft Power ไทยควรผลิตสื่อ เช่น ภาพยนตร์ อนิเมชัน เพลง วรรณกรรม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอัตลักษณ์ไทยในระดับนานาชาติและสร้างภาพลักษณ์ไทยในฐานะเจ้าของมรดกดั้งเดิม
4.4 สร้างพันธมิตรเชิงวัฒนธรรม
ควรใช้เวทีระดับภูมิภาค เช่น ASEAN Cultural Exchange สร้างฉันทามติระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อไม่ให้ปัญหาวัฒนธรรมกลายเป็นข้อขัดแย้งซ้ำซาก และอาจใช้กลไกทางวิชาการในการประสานความร่วมมือข้ามชาติ เช่น ศูนย์วิจัยอาเซียนศึกษา
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
จัดตั้ง "ศูนย์ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางวัฒนธรรม" ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อศึกษาภัยคุกคามเชิงวัฒนธรรมอย่างเป็นระบบ
บรรจุหลักสูตร “ความมั่นคงทางวัฒนธรรม” ในการศึกษาไทยระดับมหาวิทยาลัย
ส่งเสริมการวิจัยโบราณคดีและประวัติศาสตร์เทียบเคียง ระหว่างชาติ เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงในเวทีโลก
ออกกฎหมายปกป้องมรดกวัฒนธรรมจากการถูกบิดเบือน และให้รัฐสามารถดำเนินการทางกฎหมายระหว่างประเทศเมื่อถูกแอบอ้าง
6. บทสรุป
สงครามทางวัฒนธรรมระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นภาพสะท้อนของความขัดแย้งเรื่องอัตลักษณ์ในยุคโลกาภิวัตน์ การปกป้องมรดกวัฒนธรรมมิใช่เพียงภารกิจของรัฐเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน—รัฐ ภาคประชาชน ภาควิชาการ และนานาชาติ การใช้ Soft Power อย่างมียุทธศาสตร์และยึดหลักคุณธรรม จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดและรักษามรดกของชาติไว้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- ครม. ไฟเขียว "พ.ร.บ. ศูนย์กลางการเงิน" 9 หมวด 94 มาตรา ตามที่กฤษฎีกาตรวจร่าง ส่งสภาบรรจุพิจารณาวาระ 1 ทันที 15 ก.ค. 2568
- อัยการ-ผู้พิพากษาร่วมทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กชายปากเกร็ด ถวายพระราชกุศลวันพระชนมพรรษารัชกาลที่ 10 15 ก.ค. 2568
- กมธ.เกษตรฯ วุฒิสภา หนุนใช้ "เช็คแล้ง" แอปสู้ภัยแล้งซ้ำซาก หวังเกษตรกรรอด! 15 ก.ค. 2568
- “ส.ว.ชิบ” จี้คมนาคมเร่งแก้ “เนินช้างร้อง” เส้นทางอันตรายสังขละบุรี 15 ก.ค. 2568
- "แพทองธาร" ร่วมประชุม ครม.เมินตอบปมเขมรเคลม 22 วรรณกรรมไทย 15 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
กกต. แจงคดีฮั้ว สว. ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา กกต.ชุดใหญ่ ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะกรรมการสืบสวนฯ 20:47 น.
- ประธานรัฐสภาลงพื้นที่ยะลา เดินหน้า “ยะลาโมเดล” สู่การแก้ปัญหายั่งยืน 17:24 น.
- เคลมอีกแล้ว! เขมรเปิดศึกปลาร้า ซัดไทยใช้ตราสินค้า "ปลาฮกเสียมเรียบ" ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ 17:02 น.
- “DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68” 16:40 น.
- "ทวี" พบปะกลุ่มมวลชนพรรคประชาชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุบลราชธานี 16:35 น.