วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:41 น.

การเมือง

เปิดนโยบายวิสัยทัศน์ “กุ้ง” ภูริกา สมหมาย ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย

วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.34 น.

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระดับเขตพื้นที่ เป็นกลไกพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของชุมชนตนเอง

โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีบริบทเฉพาะทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เช่น เขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งครอบคลุมอำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างสะสมมายาวนาน ทั้งเรื่องยาเสพติด หนี้สินครัวเรือน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ “นางสาวภูริกา สมหมาย” หรือ “กุ้ง” ในนามพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศตัวลงสมัครในเขตดังกล่าว พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่มุ่งหวังแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นระบบ โดยมีพื้นฐานจากประสบการณ์การทำงานร่วมกับอดีต ส.ส.อมรเทพ สมหมาย บิดาผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่มาอย่างยาวนาน

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์นโยบายและวิสัยทัศน์ของ น.ส.ภูริกา ทั้งในแง่เนื้อหาทางนโยบาย ความเชื่อมโยงกับบริบทท้องถิ่น และศักยภาพในการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงประจักษ์ในพื้นที่

1. นโยบายกับการตอบสนองปัญหาเชิงโครงสร้างในพื้นที่
นโยบายหลักของผู้สมัคร ได้แก่
(1) การปราบปรามยาเสพติด
(2) การจัดการกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์
(3) การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน
(4) การพยุงราคาสินค้าเกษตร

นโยบายทั้ง 4 ด้านดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในเชิงโครงสร้างของพื้นที่ศรีสะเกษตอนล่าง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และได้รับผลกระทบโดยตรงจากห่วงโซ่เศรษฐกิจระดับชาติและโลก นอกจากนี้ ปัญหายาเสพติดและหนี้สินยังเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางสังคมและความเหลื่อมล้ำในระดับครัวเรือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการการผลักดันเชิงนโยบายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

การยกระดับปัญหาเหล่านี้ให้อยู่ในวาระการเมืองระดับชาติ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจเชิงโครงสร้าง และสามารถตีความได้ว่า ผู้สมัครพยายามนำเสนอนโยบายที่มี “ความเชื่อมโยงเชิงบริบท” (contextual relevance) กับพื้นที่

2. ความต่อเนื่องทางการเมืองกับมิติ “ทุนทางสังคม”
แม้ว่าผู้สมัครรายนี้จะไม่มีประสบการณ์ตรงในตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน แต่ได้อาศัยฐานความเชื่อมั่นที่สั่งสมจากอดีต ส.ส.อมรเทพ สมหมาย ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประชาชนในพื้นที่ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ทุนทางสังคม (social capital) ที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครได้แสดงจุดยืนว่า “ไม่ใช่แค่สืบทอดทางการเมือง” หากแต่ “ต้องการพิสูจน์ตนเอง” ซึ่งแสดงถึงความพยายามแยกตัวออกจากแนวคิด “การสืบทอดแบบอุปถัมภ์” และสร้างภาพลักษณ์ของ “นักการเมืองหน้าใหม่” ที่มีความตั้งใจจริงและใกล้ชิดกับพื้นที่

3. วิสัยทัศน์แบบประชาชนเป็นศูนย์กลาง (People-Centered Vision)
ถ้อยคำที่ผู้สมัครใช้ เช่น “ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” “ตอบแทนแผ่นดินเกิด” และ “ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” บ่งชี้ถึงกรอบคิดแบบ ประชานิยมใหม่เชิงพัฒนา ซึ่งมุ่งเน้นการออกแบบนโยบายโดยคำนึงถึงประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ไม่ใช่เพียงฐานเสียงหรือผู้รับนโยบายเท่านั้น

การเน้นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การค้าในท้องถิ่น และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สะท้อนถึงความพยายามเชื่อมโยงระหว่าง “นโยบายระดับชาติ” กับ “การเปลี่ยนแปลงระดับรากหญ้า” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนต้องการมากขึ้นในยุคหลังวิกฤตเศรษฐกิจ

4. การสื่อสารทางการเมืองและความมั่นใจในแบรนด์พรรค
นอกจากนี้ การที่ น.ส.ภูริกา แสดงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นความหวังของประชาชนในพื้นที่ เป็นการใช้กลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองที่อาศัย "แบรนด์ทางการเมือง" (Political Branding) ของพรรคเพื่อไทยที่มีประวัติการทำงานในพื้นที่ และผลงานที่เป็นรูปธรรมในอดีต เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

บทสรุป
นโยบายและวิสัยทัศน์ของ “กุ้ง” ภูริกา สมหมาย ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ในนามพรรคเพื่อไทย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการผสานระหว่างการเมืองเชิงระบบกับปัญหาเชิงพื้นที่อย่างชัดเจน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน การฟื้นฟูความหวังผ่านแนวนโยบายที่ตอบโจทย์ความเหลื่อมล้ำในระดับครัวเรือน และการสร้างความต่อเนื่องทางสังคมบนพื้นฐานของความไว้วางใจ

แม้ว่าจะยังไม่มีบทพิสูจน์ในสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ แต่หากพิจารณาจากเนื้อหานโยบาย ท่าทีการสื่อสาร และบริบททางสังคมท้องถิ่นแล้ว วิสัยทัศน์ของเธอมีความน่าจับตาในฐานะตัวแทนของการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่ ที่เชื่อมโยงรากเหง้า ความร่วมสมัย และแนวทางการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง


 

หน้าแรก » การเมือง