การเมือง
"อนุทิน" ส่งหนังสือถึง "วันนอร์" แจ้งครม.พร้อมแถลงนโยบาย 29 ก.ย.เป็นต้นไป พร้อมพิทักษ์พุทธศาสนาตามพระสังฆราชานุมัติด้วยความเห็นชอบของ "มส."
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งมายัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรื่องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภา
โดยในวันนี้ (25 ก.ย.) รัฐบาลจะส่งเล่มนโยบายจำนวน 1 เล่ม มายังรัฐสภา พร้อมกับคำแถลงนโยบายของ ครม. ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง ครม.ได้กำหนดวันพร้อมที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้คำแถลงนโยบายรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ก.ย.นี้โดยสรุประบุชัดจะสนับสนุนการจัดทำประชามติและการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยรับฟังเสียงของประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและเพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พร้อมเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ได้แก่ ภัยด้านเศรษฐกิจ ภัยด้านความมั่นคง ภัยด้านสังคม และภัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่กับการต้องวางรากฐานของประเทศ การขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการสร้างระบบเศรษฐกิจที่โปร่งใส เป็นธรรม และยั่งยืน การสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสันติสุขให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมือง และการเสริมสร้างความไว้วางใจจากประชาชน การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ด้านเศรษฐกิจ
- สร้างรายได้ ลดรายจ่าย อาทิ ค่าพลังงาน ค่าน้ำดื่มสะอาด ค่าโดยสาร ค่าผ่านทาง เพื่อให้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยจัดทำโครงการ "คนละครึ่ง" การบริหารจัดการราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการสร้างโอกาสในการสร้างรายได้และความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ค้ารายย่อย ผู้ประกอบการ รวมถึงเกษตรกรและชุมชนในท้องถิ่นให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และท้องถิ่น ส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าภาคครัวเรือนและกิจกรรมทางการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและชุมชนและเพิ่มพลังงานสีเขียวตามความต้องการของทุกภาคส่วน
- แก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง ในส่วนหนี้ภาคประชาชน ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้รายบุคคลในระบบ รายละไม่เกิน 1 แสนบาท เพื่อลดปัญหาหนี้ที่ทำให้คนไทยติดกับดักหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ควบคู่กับการสร้างระบบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับลูกหนี้ที่มีวินัยในการชำระหนี้โดยสม่ำเสมอ การให้ความรู้ทางการเงิน นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs ในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐและภาคธุรกิจขนาดใหญ่
- เพิ่มโอกาสการออมของประชาชนรายย่อยให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้สะดวก เพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์สลากเพื่อการออม โดยกันเงินจำนวนหนึ่งที่ผู้ซื้อสลากที่ไม่ถูกรางวัลให้มีเงินออมอันเกิดจากเงินที่กันไว้
- ฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เน้นสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ปราบปรามการฉ้อโกงและหลอกลวงนักท่องเที่ยว จัดทำมาตรการกระตุ้นคนไทยกลับมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเมืองรอง จูงใจให้ภาคเอกชนปรับปรุงโรงแรมที่พักและแหล่งท่องเที่ยวผ่านกลไกภาษี ดึงดูดชาวต่างชาติให้พำนักในไทยระยะยาวและเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัว
- เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า จัดตั้งทีมไทยแลนด์ รวมทั้งผลักดันไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Co-operation and Development) เพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ ดูแลและสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา การสกัดปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า และป้องกันการทุ่มตลาด
ปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนการอนุญาตให้สะดวก โปร่งใส และเป็นมิตรต่อผู้ประกอบการ ปรับระบบส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์สมัยใหม่ อาหารแห่งอนาคต พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมชีวภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้นักลงทุน จากต่างประเทศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทของไทย
ด้านความมั่นคง
- เร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ ผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง ตลอดจนทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจ ให้ความเห็นต่อการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างไทย-กัมพูชา
- เร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้านสังคม
- ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ไม่สนับสนุนให้มีการประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุนเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีธุรกิจการพนัน รวมถึงการพนันที่แฝงมาในรูปของกีฬา อาทิ โป๊กเกอร์
- ขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง เพื่อยกระดับ ความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาประเทศ
- พิทักษ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยดำเนินมาตรการป้องกันและขจัดการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยในส่วนของพระพุทธศาสนารัฐบาลจะดำเนินการโดยพระสังฆราชานุมัติด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม
ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เร่งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยและพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง, ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ, ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด, พัฒนายกระดับวิถีเกษตรกรไปสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม และ จัดตั้งตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่ได้มาตรฐานสากลและผลักดันกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย
- เร่งรัดการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล, เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบ โดยยกเลิกกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและสร้างภาระที่ไม่จำเป็นแก่ประชาชนและภาคธุรกิจที่เรียกว่ากิโยติน (Guillotine) การริเริ่มเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลและผลักดันการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ จะผลักดันการพัฒนาตามแนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน ในช่วงเวลาของการบริหารราชการแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง อาทิ
- การพัฒนาบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและการแพทย์แผนไทย การส่งเสริมและพัฒนา การสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพทางกายและจิตใจที่ดี
- การผลักดันกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูประบบการศึกษา
- การวางรากฐานการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ยุคใหม่ จากเดิมที่เน้น "ปริมาณ" ไปสู่การสร้าง "มูลค่า" โดยยกระดับ ภาคเกษตรกรรมของไทยไปสู่เกษตรอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของอาหาร
- การวางรากฐานเพื่อให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะ SMEs ก้าวทันโลกควบคู่กับการยกระดับโครงสร้างสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคให้รองรับการพัฒนาประเทศควบคู่กับการส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในโครงการขนาดใหญ่ การกำกับให้มีการจัดสรรและการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศโดยรวม
- การสืบสานต่อยอดโครงการพระราชดำริ และโครงการตามแนวพระราชดำริ
- การกำหนดผังเมืองและการบังคับใช้เป็นกฎหมายเพื่อให้การพัฒนาพื้นที่เป็นไป อย่างเหมาะสม
- การบริหารจัดการที่ดินเพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ทำกินได้อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
- การพัฒนาระบบรายได้และบริหารสินทรัพย์ของภาครัฐให้เข้มแข็ง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "อนุทิน" ส่งหนังสือถึง "วันนอร์" แจ้งครม.พร้อมแถลงนโยบาย 29 ก.ย.เป็นต้นไป พร้อมพิทักษ์พุทธศาสนาตามพระสังฆราชานุมัติด้วยความเห็นชอบของ "มส." 25 ก.ย. 2568
- กกต.เชิญชวนเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 7 แห่ง 28 กันยายน 2568 25 ก.ย. 2568
- สภาฯ ล่มแล้ว! ระหว่างพิจารณาร่างกม.อากาศสะอาด หลังมีผู้ลงคะแนนไม่ครบกึ่งหนึ่ง แม้ "อนุทิน" จะเข้าร่วม 25 ก.ย. 2568
- "แพทองธาร" เข้าเยี่ยม "ทักษิณ" ครั้งที่ 4 แย้ม "ผบ.เรือนจำฯจะให้ไปช่วยคุมงานลอกท่อ" ให้เยี่ยมผ่านวิดีโอคอลไลน์ 25 ก.ย. 2568
- วิเคราะห์แนวคิดแก้วิกฤติคณะสงฆ์ไทยของ "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" รองนายกฯ ดูสำนักพุทธฯ 25 ก.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
“Green Active โลกร้อง เรารีแอก” ไทยพีบีเอส ชวนทุกคนร่วมขับเคลื่อน Climate Action 28 ก.ย. – 4 ต.ค. นี้ 20:21 น.
- “ไตรศุลี” โต้ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษเขต 5 เพื่อไทย เลิกโหนวาทกรรมงูเห่า 18:53 น.
- "ศุภจี" รมว.พาณิชย์ ร่วมงานวันสันติภาพโลก! "พระพรหมบัณฑิต" ปลื้ม "มจร" สร้างวิศวกรสันติภาพกว่า 400 คน 18:40 น.
- กรมชลประทาน แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 18:15 น.
- ผู้ว่าฯกระบี่ นำจัดกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติฯ และวันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลสากล 20 กันยายน 2568 16:57 น.