วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:13 น.

การเมือง

"แพทองธาร" ติดตามงาน!  หลังครม.ให้สั่งการหน่วยราชการ ช่วยณรงค์เกี่ยวกับแนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้อง

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 12.34 น.

"แพทองธาร" เข้าบ้านพิษณุโลก ติดตามงาน หลังครม.มอบหมาย ให้สั่งการหน่วยราชการณรงค์เกี่ยวกับแนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมมีศีลธรรมอันดี  

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ติดตามงานตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมาย รมว.วัฒนธรรม ให้สั่งการหน่วยราชการเรื่องการรณรงค์เกี่ยวกับแนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมมีศีลธรรมอันดีต่อไป

นอกจากนี้ ยังหารือกับทีมที่ปรึกษาติดตามงานของกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ (Cash Rebate) ภาพยนตร์ไทย งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ Bangkok International Film Festival , ด้านดนตรี งาน Music Festival , Music Awards และงานด้านศิลปะ การเปิดหอศิลป์แห่งชาติและภาษีนำเข้างานศิลปะ เป็นต้น 

ทั้งนี้วัฒนธรรมไทยมีรากฐานสำคัญจากพระพุทธศาสนา ทั้งในด้านจริยธรรม ประเพณี และค่านิยมทางสังคม การธำรงรักษาวัฒนธรรมไทยพุทธอย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางจิตวิญญาณของชาติ และเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างศีลธรรมของสังคม

ในบริบทปัจจุบันที่กระแสโลกาภิวัตน์และวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก การรณรงค์เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้องโดยภาครัฐ โดยเฉพาะผ่านกลไกของหน่วยงานราชการ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการปกป้องรากเหง้าอัตลักษณ์ไทย พร้อมกับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจริยธรรมให้กับประชาชน

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ได้ติดตามงานที่บ้านพิษณุโลก ภายหลังได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการสั่งการหน่วยราชการเร่งรณรงค์แนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมมีศีลธรรมอันดีนั้น สะท้อนถึงการกำหนดนโยบายที่ให้ความสำคัญต่อวัฒนธรรมไทยในระดับโครงสร้างรัฐอย่างเป็นรูปธรรม

ความสำคัญของการรณรงค์แนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธ
(1) วัฒนธรรมไทยพุทธในฐานะรากฐานจริยธรรมสังคม
พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทยมาแต่โบราณ โดยส่งอิทธิพลต่อวิถีชีวิต การศึกษา การเมือง และการแสดงออกทางศิลปะ จึงกล่าวได้ว่าวัฒนธรรมไทยพุทธเป็นเครื่องมือในการกล่อมเกลาจิตใจ สร้างความสงบสุข และรักษาความมั่นคงของสังคม

(2) การเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมในสังคมไทยร่วมสมัย
สังคมไทยปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายจากกระแสวัตถุนิยม ปัจเจกนิยม และความหลากหลายทางความเชื่อ วัฒนธรรมพุทธที่เคยเป็นรากฐานเริ่มถูกละเลย หรือถูกตีความอย่างบิดเบือน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะต้องรณรงค์ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างแบบอย่างที่ดีในสังคม

(3) การดำเนินงานของภาครัฐต่อการรณรงค์วัฒนธรรมไทยพุทธ
จากการติดตามของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พบว่าการขับเคลื่อนวาระวัฒนธรรมไทยพุทธมีความพยายามผสานนโยบายและกิจกรรมในหลายมิติ เช่น
การสั่งการหน่วยราชการ ให้ดำเนินโครงการรณรงค์ในพื้นที่ทั่วประเทศ
การประสานงานระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค ในการจัดงานทางวัฒนธรรม
การสนับสนุนกิจกรรมศิลปะที่สะท้อนคุณค่าทางพุทธศาสนา เช่น งานภาพยนตร์ เทศกาลดนตรี และหอศิลป์
การส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์และ Soft Power ด้านศีลธรรม ที่สื่อสารถึงแนวทางพุทธที่ทันสมัยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่

แนวทางการรณรงค์ที่มีประสิทธิภาพ
การรณรงค์ให้วัฒนธรรมไทยพุทธกลับมาเป็นพลังทางสังคมจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการทั้งด้านเนื้อหา กลยุทธ์ และช่องทางการสื่อสาร โดยมีแนวทางที่สำคัญดังนี้
(1) การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
จัดทำคู่มือวัฒนธรรมไทยพุทธสำหรับหน่วยงานรัฐและสถานศึกษา
ส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนาเชิงลึกและเท่าทันยุคสมัย
รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจหลักธรรมเบื้องต้น เช่น ศีล 5 การเจริญเมตตา
(2) การใช้สื่อใหม่และกิจกรรมสร้างสรรค์
พัฒนา Content สื่อออนไลน์ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ เช่น Short Video, Podcast, Animation
จัดประกวดผลงานศิลปะหรือสื่อสารคดีที่สะท้อนหลักธรรมพุทธ
สนับสนุนงานเทศกาลที่ผสานความบันเทิงกับจริยธรรม เช่น Music & Dharma Festival
(3) การใช้วัดและชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้
ฟื้นฟูบทบาทวัดเป็นศูนย์กลางคุณธรรมในชุมชน
จัดโครงการ “วัดเป็นโรงเรียนแห่งชีวิต” สอนศีลธรรมแบบปฏิบัติ
เชื่อมโยงวัด โรงเรียน และครอบครัวในการปลูกฝังค่านิยมไทยพุทธ
(4) การสร้างระบบติดตามและประเมินผล
พัฒนาเกณฑ์ชี้วัดด้านคุณธรรมในชุมชน
มีระบบรายงานผลการดำเนินงานของหน่วยราชการในด้านศีลธรรม
จัดให้มีเวทีเสวนาประเมินผลนโยบายจากภาคประชาชน

ข้อเสนอเชิงนโยบาย
จัดตั้ง “ศูนย์วัฒนธรรมไทยพุทธแห่งชาติ” เพื่อเป็นคลังข้อมูล องค์ความรู้ และศูนย์กลางรณรงค์ในระดับชาติ
บรรจุแนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธในแผนพัฒนาประเทศ ให้เป็นวาระหลักในด้านความมั่นคงทางวัฒนธรรม
บูรณาการความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และชุมชนวัด ผ่านโครงการ "สื่อธรรม นำวัฒนธรรม"
กำหนดให้หน่วยราชการมี KPI ด้านการส่งเสริมศีลธรรม โดยเฉพาะในกระทรวงที่มีบทบาทด้านการศึกษาและวัฒนธรรม
จัดให้มี “สื่อธรรมต้นแบบ” ในหน่วยงานราชการ เช่น แคมเปญรณรงค์ งดเว้นอบายมุข ทำบุญร่วมวัดในวันสำคัญ

ดังนั้น การรณรงค์เกี่ยวกับแนวทางวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้องมิใช่เพียงการรักษาประเพณี แต่คือการธำรงหลักจริยธรรมและเสถียรภาพทางสังคมในระยะยาว บทบาทของหน่วยราชการจึงต้องไม่หยุดอยู่ที่การออกคำสั่งหรือจัดกิจกรรมเฉพาะกิจ แต่ควรเป็นการวางระบบการสร้างความเข้าใจ สร้างแรงบันดาลใจ และปลูกฝังคุณธรรมผ่านวัฒนธรรมพุทธในทุกระดับของสังคม

หากภาครัฐสามารถดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง การธำรงรักษาวัฒนธรรมไทยพุทธจะไม่ใช่เพียงนโยบาย แต่จะกลายเป็นพลังทางสังคมที่หล่อหลอมประชาชนไทยให้มีศีลธรรม ความเมตตา และสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง