การเมือง
ศาลรธน. ยกคำร้องแปรงบ 68 ตาม ม.144 นัดชี้ชะตา 1 ส.ค.นี้ ปมแปรงบ 69 ลงพื้นที่ "พิเชษฐ์"
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอความเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสามเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีการเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง หรือไม่
นายภัณฑิล น่วมเจิม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และกรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569
โดยเป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2568 ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้รับการพิจารณาเสร็จสิ้น และเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแล้ว ไม่อยู่ในขั้นตอนของการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายในกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (7) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องในส่วนส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) มีคำสั่งรับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมทั้งส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับความเห็นของของไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 1444 วรรคสาม
ให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายในวันวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้คู่กรณีมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ณ ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในเวลาที่กำหนดแทนการส่งเอกสารให้แก่บุคคลนั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 25661 มาตรา 54 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 23
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า การกระทำฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง คือ การเสนอ การแปรญัตติ การกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีส่วนโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีดังกล่าว เมื่อข้อข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องมีการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าวเป็นที่ยุติชัดเจน เป็นเพียงการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวกับกิจการของสภาผู้แทนราษฎรตามหน้าที่ของผู้ถูกร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมอบหมาย เท่านั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคสอง จึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
สำหรับคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัย กำหนดให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 อยู่ในระหว่างการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญให้ยกคำขอส่วนนี้
ส่วนคำขอให้ศาลกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องระงับการใช้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายของโครงการทั้ง 3 โครงการ ตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับการจัดสรรเห็นว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จึงให้ยกคำขอส่วนนี้ด้วย
เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลในวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา หากผู้ร้องหรือผู้ถูกร้อง ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568
และศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 นาฬิกา และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 นาฬิกา เป็นต้นต้นไป ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "วิเชษฐ์" จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงใจให้ปั๊มน้ำมันเปลี่ยนแจกน้ำหันมาแจกผลไม้ตามฤดูกาลที่ตกต่ำแทนแทน ก่อนจะตายกันหมดประเทศ 18 ก.ค. 2568
- "วราวุธ" กำชับ ศบปภ.ภาคกลาง พม. เตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ ครบทุกมิติ 18 ก.ค. 2568
- "ดร.มหานิยม" เข้าพบ "ภูมิธรรม" ขอช่วยประสานตำรวจ ปมการให้ข่าวพระภิกษุรายวัน หวั่นกระทบจิตใจชาวพุทธแรง 18 ก.ค. 2568
- "ปลอดประสพ" เตือนสติรัฐอย่าใช้กฎหมายแรงกับพระเสพเมถุน ย้ำหลักธรรมไม่ควรถูกสั่นคลอนเพราะบุคคล 18 ก.ค. 2568
- “ตั๊น จิตภัสร์“ ร่วมยินดี “สุณัฐชา” นั่งประธาน กมธ.ตำรวจ สภาฯ ตอบรับเป็น “ประธานที่ปรึกษา กมธ.” 18 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
กกต. แจงคดีฮั้ว สว. ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา กกต.ชุดใหญ่ ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะกรรมการสืบสวนฯ 20:47 น.
- ประธานรัฐสภาลงพื้นที่ยะลา เดินหน้า “ยะลาโมเดล” สู่การแก้ปัญหายั่งยืน 17:24 น.
- เคลมอีกแล้ว! เขมรเปิดศึกปลาร้า ซัดไทยใช้ตราสินค้า "ปลาฮกเสียมเรียบ" ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ 17:02 น.
- “DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68” 16:40 น.
- "ทวี" พบปะกลุ่มมวลชนพรรคประชาชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุบลราชธานี 16:35 น.