ทัพเรือไทยระดมความพร้อมสูงสุดภายใต้แผน "จักรพงษ์ภูวนาถ"  ทั้งหมู่เรือพิฆาต หน่วยซีล และกองบินทหารเรือ เข้าประจำที่ตามแนวทางแผนป้องกันประเทศ ขณะยืนยันการประกาศกฎอัยการศึกมีผลเฉพาะบางอำเภอ ไม่กระทบวิถีชีวิตประชาชน 

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568  พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณี ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ลงนามประกาศ ใช้กฎอัยการศึกเพิ่มเติม ในจังหวัดจันทบุรีและตราด ว่า สืบเนื่องสถานการณ์ความตึงเครียดด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 2 จังหวัด ซึ่งทางกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จึงใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มเติมในพื้นที่บางอำเภอ ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนในของ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้มีอำนาจตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และดำเนินการบริหารจัดการกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเตรียมพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติเช่นเดียวกับในพื้นที่ที่ประกาศกฎอัยการศึกไปก่อนหน้านี้ 

กองเรือยุทธการพร้อมรบสูงสุดจัดเต็มกำลังหมู่เรือพิฆาต หน่วยซีล อากาศยาน 

กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ ได้ตรวจความพร้อมรบในการเตรียมกำลังทางเรือ ( หมู่เรือพิฆาต) หน่วยซีล (นักรบ 3 มิติ) กองการบินทหารเรือ ( อากาศยานต่อต้านภัยคุกคาม) โดยมี ผู้นำกำลังรบส่วนต่าง ๆ นำกำลังพลแถวรับฟังโอวาท เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ และสร้างขวัญกำลังใจ ณ หน่วยพื้นที่ทางทหาร ในส่วนของกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดย ผู้บัญชาการกองยุทธการ ได้มีความห่วงใยกำลังพลทุกนาย พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลมีความพร้อมสูงสุด ทั้งร่างกาย และจิตใจ หน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติจากภัยคุกคาม ให้ประเทศและประชาชนเกิดความสงบสุข

พร้อมขอให้ทุกส่วนมีความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้ ภายใต้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ หรือแผนป้องกันประเทศกษัตริย์ศึก รวมถึงแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ ที่ได้ผ่านการฝึกฝนกันมา ตลอดจน ให้กำลังพลพร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ สำหรับ กำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ แนวหลังครอบครัว กองเรือยุทธการ จะดูแลครอบครัวเป็นอย่างดีที่สุด เพื่อให้กำลังพลทุกนาย เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างภาคภูมิใจ” ผู้บัญชาการกองยุทธการ กล่าว