วันอังคาร ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 20:37 น.

การเมือง

"ภูมิธรรม" นำคณะรัฐบาลบินมาเลย์ ย้ำ 2 เงื่อนไขหยุดยิง ไม่คุยแผนที่ 1:200,000

วันจันทร์ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 10.50 น.

รองนายกฯ ภูมิธรรม นำคณะผู้แทนไทยเหินฟ้าสู่มาเลเซีย ร่วมหารือหยุดยิงกับกัมพูชา โดยมีประธานอาเซียนเป็นตัวกลาง พร้อมชี้ชัด ไทยยึดมั่นอธิปไตย ไม่ตกลงใด ๆ ที่กระทบผลประโยชน์ชาติ และย้ำว่ากัมพูชาต้องแสดงความจริงใจต่อเวทีเจรจา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่กองบิน 6 ดอนเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้แทนรัฐบาลไทยออกเดินทางสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการเจรจากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา "ฮุน มาเนต" ภายใต้การอำนวยความสะดวกของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน โดยมีตัวแทนจากจีนและสหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์

นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า จุดประสงค์หลักของการเจรจาคือเพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี 2 เงื่อนไขสำคัญที่ไทยจะยึดไว้ ได้แก่ การไม่กระทบต่ออธิปไตยของไทย และความจริงใจของฝ่ายกัมพูชา ในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

“เราจะไม่หารือเรื่องแผนที่ 1:200,000 ในเวทีนี้ และไม่มีการตกลงใดที่ผูกพันระยะยาวโดยไม่ผ่านรัฐสภา สิ่งใดที่เป็นสาระสำคัญต่อประเทศ จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอย่างแน่นอน” นายภูมิธรรมกล่าว

พร้อมกันนี้ ยังเน้นว่าการหยุดยิงไม่เท่ากับการยอมรับสถานการณ์เดิม โดยยืนยันว่าแม้ยังไม่มีการถอนกำลังจากพื้นที่พิพาท ก็ไม่ได้หมายความว่าไทยยอมเสียสิทธิในดินแดน เพราะการเจรจายังดำเนินอยู่ และไทยยึดมั่นในหลักอธิปไตยเป็นสำคัญ

ต่อคำถามถึงพฤติกรรมของกัมพูชาในอดีตที่มักไม่ยึดมั่นในคำพูด นายภูมิธรรมตอบชัดว่า “นี่คือหัวใจของการเจรจา กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจอย่างชัดเจน เราไม่อาจวางใจได้จากสิ่งที่เขาทำมาในอดีต ซึ่งสะท้อนถึงความไม่จริงจังและละเมิดหลักสากลอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ เขายังระบุว่า ไทยได้เตรียมข้อมูล ข้อเท็จจริง และหลักฐานต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเจรจา โดยจะยึดหลักผลประโยชน์ชาติเป็นอันดับแรก รวมถึงได้รับการปรึกษาหารือกับกองทัพในประเด็นสำคัญต่าง ๆ แล้ว

“เราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม เรามีหลักฐานชัด และพร้อมแสดงในที่ประชุม หากข้อเสนอจากกัมพูชาไม่ตรงกับความยุติธรรมหรือหลักการสากล เราก็ไม่อาจยอมรับได้” เขากล่าว

ในตอนท้าย นายภูมิธรรมย้ำว่าการเจรจาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน ป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้น และแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าไทยยืนอยู่บนหลักนิติธรรมและมนุษยธรรมเสมอ

 

"พิชัย" เลี่ยงตอบข้อเสนอทรัมป์เรื่องให้ไทยกัมพูชาหยุดยิงก่อนคุยภาษี
 
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เลี่ยงปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ถึงความคืบหน้าหลังจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยื่นข้อเสนอให้ไทยกับกัมพูชาเจรจาหยุดยิงก่อน ถึงจะมีการเดินหน้าเจรจาเรื่องอัตราภาษีต่อได้ แต่กล่าวเพียงสั้นๆว่า "ก็สั้นๆในข่าวเลย"

ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อถึงข้อเท็จจริง ว่าเมื่อมีข้อเสนอมาแบบนี้ไทยจำเป็นต้องมีการปรับข้อเสนอเรื่องอัตราภาษีใหม่หรือไม่ หรือจะยืนยันให้เป็นไปตามเดิม หรือต้องเจรจากันใหม่ นายพิชัย ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเดินขึ้นรถทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุที่นายพิชัยเลี่ยงตอบการเจรจาเรื่องอัตราภาษี อาจต้องรอผลการเจรจา ที่คณะของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย และรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไปเจรจาปัญหาชายแดนกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับนายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย วันนี้( 28 ก.ค.)ก่อน

 ทภ.2 แจง บึ้มตึกร้างกัมพูชา พบตั้งอาวุธยิงวิถีโค้งใกล้พลเรือนใช้เป็นโล่มนุษย์โจมตีไทย
 
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย

ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

 

หน้าแรก » การเมือง