เมื่อวันที่ 29   กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก  พลตรีวินธัย สุวารี  โฆษกกองทัพบก ระบุว่า พื้นที่  กองทัพภาคที่ 2  เลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ซึ่งมี  พลโทบุญสิน พลาดกลาง  แม่ทัพภาคที่ 2 และ  พล.ท.อมฤต บุญสุยา  แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่จังหวัด  สระแก้ว  และ ผู้นำทางทหารของ  กัมพูชา  จากเดิมจะเริ่มเวลา 07.00 น. ก่อนแจ้งเลื่อนเป็น 10.00 น. เนื่องจากในพื้นที่  ชายแดนไทย-กัมพูชา  ยังเกิดการปะทะต่อเนื่อง ต่อมาเลื่อนออกไปอีก แต่ยืนยันยังมีความพยายามจัดประชุม

กองทัพภาคที่ 2 รายงานฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พบการก่อกวนและการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้กลับตามสถานการณ์ กองทัพบก ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยหลังจากฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงหลังเวลา 24.00 น. และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด

หน่วยทหารในพื้นที่ได้รายงานพบการปฏิบัติทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายเหตุการณ์ตลอดคืนจนถึงช่วงเช้า โดยพบการก่อกวนและใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาในพื้นที่ฝ่ายไทย ในหลายพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ช่องบก  พื้นที่ช่องอานม้า พื้นที่ซำแต  พื้นที่ปราสาทตาควาย พื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามสถานการณ์ โดยใช้กำลังในแนวหน้าและอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อยับยั้งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา

 "ธีรรัตน์" ย้ำสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังยืนยันความปลอดภัยให้กลับบ้านไม่ได้  
 
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ ว่า ทางการยังไม่สามารถยืนยันการหยุดยิงอย่างเป็นทางการได้ จึงขอให้ประชาชนในศูนย์อพยพอดทนรอจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัยอย่างแท้จริง โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานยังคงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งจากฝ่ายไทย และการสอดแนมพฤติกรรมฝั่งกัมพูชา เพื่อความมั่นใจสูงสุดก่อนจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางกลับบ้าน พร้อมเน้นย้ำว่า การดูแลผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพยังดำเนินการอย่างเต็มที่ และรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านการขนส่ง และรถรับส่งไว้ล่วงหน้าแล้ว หากสถานการณ์คลี่คลาย

สำหรับช่วงเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น. จะมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว และตราด ซึ่งเป็น 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา, กรมบัญชีกลาง, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, ท้องถิ่นจังหวัด, และศูนย์เฉพาะกิจติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์เพื่อความสงบเรียบร้อย เพื่อชี้แจงแนวทางการใช้เงินทดลองราชการในการช่วยเหลือประชาชนในภาวะฉุกเฉิน โดยเฉพาะประเด็นที่หลายจังหวัดมีข้อสงสัย เช่น การนำงบไปใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค อาทิค่าน้ำ ค่าไฟ หรือสิ่งจำเป็นต่างๆ

ด้าน นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการซักซ้อมความเข้าใจ เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว ขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และขอย้ำว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ที่อยู่ในศูนย์อพยพ ตลอดจนทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ รวมถึงเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งผู้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม โดยขอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันแสดงความสามัคคี และเชื่อมั่นในความมั่นคงของประเทศ