วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:45 น.

การเมือง

 'ชัยชนะ' ห่วงเด็กชนบท! สั่ง สธ.ลุยงานเชิงรุก ตรวจสุขภาพถึงบ้าน ดันเด็กต่างอำเภอเทียบเท่าในเมือง  

วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 12.23 น.

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568   นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยตามพระราชดำริ (Thai Triple-P) เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยในพื้นที่ภาคใต้ ที่โรงแรมชฎา แอท นคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช  โดยมีนายทรงศักดิ์ มุสิกอง สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  ร่วมต้อนรับพร้อมร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย 

โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กปฐมวัยอายุ 2-6 ปี ด้วยการฝึกอบรมพ่อแม่และผู้ดูแลให้มีทักษะการเลี้ยงดูที่เหมาะสม และไม่ใช้ความรุนแรง และมุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานพัฒนากลุ่มเด็กปฐมวัยในเขตสุขภาพที่ 11  (เขตสุขภาพที่ 11 ประกอบด้วย ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง)

รมช.ชัยชนะ กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสติปัญญา เพื่อให้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศ


โดย รมช.ชัยชนะ แสดงวิสัยทัศน์และมอบนโยบายในโอกาสเปิดโครงการฯ ว่า กรมสุขภาพจิตมีภารกิจสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตของคนไทยกว่า 67 ล้านคน รวมถึงเด็กในครรภ์ โดยได้ผลักดัน 2 โครงการหลักเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเด็กไทย
 
1.โครงการ 'เลี้ยงเก่ง ลูกเก่ง' (Thai P-A-R-E-N-T-ing program) มุ่งเน้นไปที่เด็กปฐมวัยอายุ 2-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างพฤติกรรมและความทรงจำ โดยมีเป้าหมายครอบคลุม 1.5 ล้านครอบครัวทั่วประเทศ โครงการนี้เริ่มดำเนินการในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และขยายความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 3 สมาคม เพื่อฝึกอบรมครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องแก่เด็กและผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังจะมีการประสานงานกับกรมอนามัยเพื่อดูแลเรื่องโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็กอีกด้วย

 2.โครงการ 'วัยรุ่นติดเกราะ' (From Bully to Buddy) เจาะกลุ่มเด็กช่วงอายุ 13-15 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือได้รับอิทธิพลจากเพื่อน โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เด็กเห็นถึงความสำคัญของการวางแผนชีวิตและกำหนดเป้าหมายในอนาคตตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถเลือกเส้นทางการศึกษาและอาชีพที่สอดคล้องกับความฝันของตนเอง

นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขประกอบด้วยหลายกรม ขอให้ผู้บริหารและครูในท้องถิ่นร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับสุขภาพจิตและพัฒนาการของเด็กไทยให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป

ในการนี้ รมช.ชัยชนะ ยังแสดงความกังวลต่อปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เริ่มต้นจากความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงการศึกษาและสุขภาพ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของเด็กในพื้นที่ชนบท
ว่า คุณภาพการศึกษาและการดูแลสุขภาพของเด็กต่างอำเภอมีความไม่เท่าเทียมกับในเมือง โดยได้ยกตัวอย่างว่าการมอบนมผงหรือของเล่นเสริมทักษะให้กับเด็กในชนบทมีคุณค่าทางจิตใจ และสร้างกำลังใจให้กับเด็กในพื้นที่ชนบท

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นายชัยชนะ ได้สั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการลงพื้นที่ตรวจสุขภาพและสำรวจความต้องการของเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รายงานผลการปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนในจังหวัดจะได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง

ก่อนจะเดินทางไปที่ศูนย์กีฬาเทศบาลเมืองปากพนัง อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรและผู้ที่เข้ารับรักษาในโครงการมินิธัญญาลักษณ์ 

 
 

หน้าแรก » การเมือง