เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ตามข้อตกลงหยุดยิงไทย–กัมพูชา นำโดย พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยผู้แทนทหารจาก 8 ประเทศอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม เดินทางลงพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์

จุดแรก คณะได้ตรวจสอบความเสียหายของโรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งถูกโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของกัมพูชาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวน 3 ลูก ตกกระทบทั้งอาคารภูมิพัฒน์ (ศูนย์บำบัดผู้ติดยาและผู้ป่วยจิตเวช), แฟลตที่พักบุคลากรทางการแพทย์ และบริเวณสนามหญ้าโรงพยาบาล เหตุการณ์ดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากล เนื่องจากโจมตีเป้าหมายพลเรือนและสถานพยาบาลโดยตรง สร้างความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท และยังส่งผลกระทบทางจิตใจต่อบุคลากรการแพทย์หลายราย

คณะยังได้เดินทางต่อไปยัง “ช่องจุ๊ปตะโมก” เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ภายหลังการประกาศหยุดยิง ตอกย้ำว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง

ภายหลังการตรวจสอบ พล.ต.ซัมซุล ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับข้อมูลตรงจากพื้นที่จริง มิได้ชี้ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่ยืนยันว่าจะนำข้อเท็จจริงไปสะท้อนต่ออาเซียน พร้อมกล่าวชื่นชมว่า

“ไม่ได้ปากหวานนะ แต่ขอชื่นชมทหารไทยที่ปฏิบัติตัวเป็นสุภาพบุรุษ ตรงกันข้ามกับทหารกัมพูชาที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ”

เขายังเปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างการตรวจสอบ มีข้อมูลหลายอย่างที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะการใช้ทุ่นระเบิด โดรน และพฤติกรรมการยั่วยุ ขณะที่กรณีวานนี้ (19 ส.ค.) มีทหารกัมพูชามาก่อกวนคณะ IOT ที่ช่องอานม้า ล่าสุดได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชาได้โทรศัพท์มาขอโทษแล้ว โดยอ้างว่าทหารผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการเมาสุรา

การลงพื้นที่ครั้งนี้มีนายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายความมั่นคงให้การต้อนรับ เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติได้รับข้อมูลครบถ้วน ตรงไปตรงมา และสะท้อนพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชาต่อสาธารณชน