วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568 12:38 น.

การเมือง

“ปลอดประสพ” ชี้ถก MOU 43–44 เสี่ยงสร้างความเข้าใจผิด เตือนนักการเมือง–นักวิชาการพูดโดยไม่รู้ อันตรายต่อชาติ 

วันอาทิตย์ ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.40 น.

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายละเอียด MOU 43 และ 44 ว่าด้วยการกำหนดเขตแดนไทย–กัมพูชา ย้ำควรให้ผู้รู้พูด เพราะเกี่ยวพันทั้งป่าสงวน–อุทยาน–อาณาเขตทางทะเลกว่า 800 กิโลเมตร 

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568  ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ได้โพสต์ข้อความว่า  MOU 43 และ 44 ขอให้ผู้รู้พูดจะดีกว่าไหม
     
ขออนุญาตใช้คำว่า“ เถียงกัน ล้งเล้ง” เรื่องจะเลิกMOU 43-44 หรือไม่ เพราะคนที่พูดกันอยู่นี่ จริงๆรู้เรื่องหรือเปล่า?  ผมน่ะรู้แน่ เพราะจำเป็นต้องรู้ ด้วยการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ 15 แห่ง และอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีก 9 แห่ง มันเกี่ยวกับเขตแดนไทยกัมพูชา 800 กม.
     
กล่าวโดยย่อและใช้ภาษาง่ายๆ MOU 43 จะประกอบด้วย 9 เรื่องหลักคือ
  1. กล่าวถึงเอกสารว่า จะใช้อะไรกันบ้าง
  2. จะใช้เทคนิคอะไรมาประกอบเพื่อลากเส้นเขตแดน
  3. การสำรวจพื้นที่จะทำเป็นตอนๆ
  4. ค่าใช้จ่ายจะร่วมกันออกอย่างไร
  5. การตกลงจะผ่านกรรมการใหญ่ 2 ชุดคือ GBCหรือGeneral Border Committee มีรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธาน และ RBC หรือ Regional Border Committee มีแม่ทัพเป็นประธาน
  6. การทำงาน มีคณะกรรมการทางเทคนิค JBC หรือ Joint Border Committee หารือตกลงในรายละเอียดของเส้นเขตแดน
  7. อย่าเปลี่ยนแปลงเส้นหรือข้อตกลงตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-ไทย ซึ่งมี 2 ฉบับเมื่อ 104และ107 ปีที่แล้ว (ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องมาตราส่วน แต่ยอมรับหลักเขต 73 เขตที่ไทยและฝรั่งเศสสร้างร่วมกันสำหรับเขมรไม่เกี่ยว เพราะยังไม่เกิด)
  8. เมื่อตกลงกันแล้วให้ใช้ได้เลย ไม่ต้องทำเป็นสนธิสัญญาอะไร
  9. หากไม่ตกลง ห้ามไปใช้ขบวนการอื่นเช่น ศาลโลก หรือ UN
     
สำหรับMOU 44 เป็นเรื่องเฉพาะอาณาเขตทางทะเล คือทะเลภายใน ทะเลอาณาเขต เขตเศรษฐกิจจำเพาะและเขตไหล่ทวีป แต่เรื่องนี้มั่วมาตั้งแต่ต้น เพราะเขมรมาสร้างหมุดที่ 74 ตามอำเภอใจและเป็นจุดที่ไม่เคยมีมาแต่สมัยฝรั่งเศสปกครอง แถมเขมรยังทุเรศดันลากเส้นผ่านเกาะกูดของไทยและทะเลอาณาเขตของเกาะกูดอีก 10 ไมล์ทะเล หรืออาจกล่าวได้ว่า จุดและเส้นที่ใช้เป็นโมฆะมาแต่ต้น
    
MOU 43 เกิดสมัยนายกฯชวน แต่ดูเหมือนจะตั้งใจเงียบ ส่วนนายกฯ อภิสิทธิ์ก็เคยพูดว่า อยากเลิกแต่เอาจริงกลับเฉย  ส่วนสมัยท่านประยุทธ์ก็ประชุมภายใต้MOU 43 ไป 2 ครั้ง กรณี MOU 44 เกิดสมัยท่านทักษิณเพราะตอนนั้นอยากสำรวจน้ำมันใต้ทะเล
     
ผมขอไม่วิจารณ์ ขอไม่ออกความเห็น เพราะท่านนายกฯ อนุทินบอกว่า จะไปถามในวาระประชามติ และอีกอย่างคือ สภาผู้แทนฯก็ได้ตั้งคณะกรรมาธิการฯขึ้นมาศึกษาแล้ว ก็เสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้ไปช่วย แต่ก็ขอติงว่า กรณีเขตแดนไทยกัมพูชานี้ หากเขมรมีใจซื่อตรง อยากให้จบจริงๆแบบบ้านพี่เรือนน้อง MOU 43 ก็จะไม่เป็นอุปสรรคอะไร หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าอยากจะมีเรื่องก็สามารถอ้างMOU 43 ได้เหมือนกัน ส่วนนักวิชาการ นักการเมือง และพวกชอบพูด ก็ควรระมัดระวังปากบ้าง อะไรไม่รู้ก็อย่าพูดจะดีกว่า
 

หน้าแรก » การเมือง