วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:43 น.

การเมือง

ประกันสังคมดูแลผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 ที่ป่วยโรคอ้วนรุนแรง หากเข้าข่ายทุพพลภาพสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลคู่สัญญาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วันจันทร์ ที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.59 น.

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 นางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถใช้สิทธิการรักษาได้ทุกโรค ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยจนสิ้นสุดการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิรวมถึงกรณีผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคอ้วนในระดับรุนแรง เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวานขั้นรุนแรง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อีกทั้งยังส่งผลต่อความสามารถในการประกอบอาชีพ ในบางกรณีอาจทำให้ผู้ประกันตนสูญเสียความสามารถในการทำงานได้อย่างถาวร ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนได้รับการดูแล และได้รับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งวินิจฉัยแล้วว่า การรักษามีความจำเป็นและมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ตามเกณฑ์ อยู่ในภาวะอ้วนทุพพลภาพ สามารถยื่นเรื่องใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลที่ทำการรักษาสามารถผ่าตัดด้วยการส่องกล้องที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ อีกทั้งยังสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกด้วย
 
 สำนักงานประกันสังคมมีสถานพยาบาลที่ผ่านการประเมินศักยภาพการให้บริการผ่าตัดภาวะอ้วนที่เป็นโรคหรือโรคอ้วนทุพพลภาพ (Morbid Obesity) กับสำนักงานประกันสังคม จำนวน 53 แห่งทั่วประเทศ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคม ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือที่แอปพลิเคชั่น SSO Plus หรือโทรศัพท์สอบถามโดยตรงที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  
                
 เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ยังได้กล่าวแนะนำผู้ประกันตนที่ป่วยโรคอ้วนรุนแรง และเข้าเกณฑ์ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ สามารถแจ้งสิทธิประกันสังคมเพื่อเข้ารับการรักษาได้ที่สถานพยาบาลคู่สัญญาของสำนักงานประกันสังคมโดยผู้ประกันตนจะต้องเริ่มเข้ารับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรม ทำการตรวจสุขภาพและคำนวณระดับความอ้วนตามเกณฑ์ BMI ขั้นต้นก่อน ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำให้ผู้ป่วยทดลองลดน้ำหนักด้วยวิธีทั่วไปก่อน เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย แต่หากไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้ แพทย์จะพิจารณาข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อรักษาภาวะโรคอ้วนรุนแรง โดยผู้ประกันตนสามารถให้สถานพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาโรคอ้วนได้อย่างครบวงจร นางสาวบุปผา เลขาธิการ สปส. กล่าวย้ำถึงสิทธิการรักษาด้วยการผ่าตัดกระเพาะเพื่อรักษาโรคอ้วน เป็นการรักษาตามความจำเป็น และตามเกณฑ์ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น ผู้ประกันตนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และขั้นตอนการเข้ารับบริการได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ หรือสายด่วนประกันสังคม โทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
                    
 “สำนักงานประกันสังคมขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่า การดูแลด้านสุขภาพภายใต้ระบบประกันสังคม ได้รับการออกแบบมาเพื่อคุ้มครองและรองรับสถานการณ์สุขภาพของผู้ประกันตนอย่างครอบคลุมอย่างทั่วถึง” 
 
 

หน้าแรก » การเมือง