วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568 10:24 น.

การเมือง

"อนุทิน" เผยไม่มีเส้นตายดันเขมรออกนอกพื้นที่ เตรียมแจ้ง "ทรัมป์" ย้ำ 4 เงื่อนไขเจรจากัมพูชายันไทยไม่ล่าช้า  

วันพฤหัสบดี ที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.37 น.


"อนุทิน" เตรียมแจ้ง "ทรัมป์" ย้ำเงื่อนไข 4 ข้อเจรจากัมพูชา เผยไม่มีเส้นตายผลักดันเขมรออกนอกพื้นที่ ลั่น ไม่มีคำว่าล่าช้า แก้ปัญหาชายแดนสระแก้ว ขณะยกเลิก MOU 43-44 อยู่ในชั้น กมธ.ศึกษาอยู่ 

เมื่อวันที่ 9  ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN SUMMIT) ที่ประเทศมาเลเซียนั้น จะมีโอกาสได้เจอกับผู้นำกัมพูชาด้วยหรือไม่ ว่า เราได้แจ้งเงื่อนไขไปแล้ว 4 ข้อที่จะทำให้มีการพูดคุยต่อไปได้ ข้อให้กัมพูชาได้ปฏิบัติ คือ เรื่องของการถอนอาวุธหนัก ทำให้ฝ่ายไทยไม่รู้สึกว่าเป็นอันตรายต่อประชาชน และเรื่องของสแกมเมอร์ รวมถึงเรื่องที่คนกัมพูชาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยทั้ง 4 เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ส่วนเดดไลน์ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ที่ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่มีคำว่าเดดไลน์ครับ” ต้องปฏิบัติก่อน หากไม่ปฏิบัติก็จะมีมาตรการที่จำดำเนินการ 

ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อ้างว่าพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามใน GBC แก้ปัญหาชายแดนสระแก้วผ่าน JBC เท่านั้นและ บอกว่า ไทยทำล่าช้า แก้ปัญหาล่าช้า 

นายอนุทิน ยืนยันว่า ไทยไม่ได้ล่าช้า ที่ล่าช้าคือ กัมพูชา ไทยเป็นผู้ถูกรุกรานเป็นผู้กระทำ ดังนั้นคำว่าล่าช้าไม่มี 

ส่วนที่ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นตัวกลาง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากำลังจะแจ้งทางประธานาธิบดี ทรัมป์ ซึ่งได้มีหนังสือมาที่ตนเอง แสดงความจำนงค์อยากเห็นไทยและกัมพูชา สามารถเจรจาหาข้อยุตติข้อพิพาท ซึ่งตนเองก็จะมีข้อความตอบกลับไป ว่าหากกัมพูชาปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลงหลัก ฝ่ายไทยเราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น ย้ำว่าเราต้องยืนยัน 4 ข้อนี้ เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศและที่สำคัญเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนของไทย

ส่วนจะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไรในวันที่ 10 ตุลาคมนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีการหารือกับฝ่ายกองทัพและกองทัพก็รับไปในเรื่องของการใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กฎอัยการศึก ในการบริหารสถานการณ์ตรงนั้นร่วมกับทางฝ่ายปกครอง ตำรวจ และป่าไม้

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการยกเลิก MOU 43 และ 44 ว่า กรรมาธิการกำลังศึกษาอยู่ ส่วนจะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่เป็นเรื่องของสภาที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งเราต้องรับฟังทั้ง 2 สภา เนื่องจากมีการตั้งกรรมาธิการทั้ง 2 สภา ทุกอย่างต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทีละประเด็น แต่ 4 เดือนนี้อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรที่เป็นเรื่องระยะยาว ต้องทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายไปให้ได้มากที่สุดก่อน

พยักหน้ารับถูกจับตาคุมมั่นคงเอง หลังเหตุใต้ถี่ เตรียมลงพื้นที่เสาร์นี้ ยันไทยไม่ล่าช้า  

นายอนุทิน  ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามีการกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด พร้อมเผยว่า วันนี้ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายอนุทินระบุว่า ในวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคมนี้ ตนจะเดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าและเยี่ยมประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ไปพร้อมกัน โดยกล่าวเชิงเหน็บแนมเล็กน้อยว่า

“เดี๋ยวไปตรงโน้นก็บอกทำไมไม่ไปตรงนี้ ไปชายแดนก็บอกไม่ไปน้ำท่วม ไปน้ำท่วมก็บอกไม่ไปภาคใต้ — ก็วนลูปแบบนี้แหละ”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีระบุเพิ่มเติมว่า ในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ จะลงพื้นที่ภาคกลางตอนบนเพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วมต้นทาง โดยจะมีการนัดหารือร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัด และกองทัพ เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสที่ระบุว่า เหตุการณ์ในภาคใต้เกิดขึ้นถี่ขึ้นเพราะเป็น “การต้อนรับรัฐบาลใหม่” นายอนุทินกล่าวชัดว่า

“เราไม่ฟังเรื่องพวกนี้ จะต้อนรับหรือไม่ต้อนรับ แต่เราต้องรับมือให้ได้ และต้องมีมาตรการเชิงรุกบ้าง”

ส่วนการถูกจับตาว่าจะสามารถคุมหน่วยงานด้านความมั่นคงได้หรือไม่ นายอนุทินเพียง ยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนกล่าวสั้น ๆ ว่า “อืม”

สำหรับแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ขณะนี้มีความเป็นรูปธรรมแล้ว อยู่ที่หน่วยงานรับผิดชอบจะนำไปปฏิบัติได้จริงเพียงใด พร้อมระบุว่า

“ถ้าดูแล้วบุคลากรคนไหนไม่เหมาะสม ไม่ใส่ใจ หรือไม่ทำเต็มที่ ก็จะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนได้”

 สปสช.ติดหนี้เกือบทุกโรงพยาบาล – นายกฯ เร่งของบกลางเคลียร์บัญชี

ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ค้างชำระหนี้ค่ารักษาพยาบาลสะสมกว่า 100 ล้านบาท

นายอนุทินยอมรับว่า สปสช.มีปัญหาติดหนี้ “แทบทุกโรงพยาบาล” และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอ ขอใช้งบกลาง มาชำระหนี้ให้สถานพยาบาล

“ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วน และเข้าเกณฑ์ ตนจะเร่งดำเนินการให้” นายอนุทินกล่าว

ครม.เศรษฐกิจเริ่มประชุมทุกจันทร์ – “อนุทิน” ปัดตั้ง “ครม.เมีย”

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ว่า ได้มีการจัดตั้งแล้ว และจะประชุมทุกบ่ายวันจันทร์ เพื่อกลั่นกรองเรื่องเศรษฐกิจชั้นต้นก่อนเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ชุดใหญ่

“ใน ครม.เศรษฐกิจก็มีหลายคนที่เป็น ครม.ใหญ่อยู่แล้ว การกลั่นกรองล่วงหน้าจะทำให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น” นายอนุทินระบุ

เมื่อถามว่าจะมีการแต่งตั้ง “คู่สมรสรัฐมนตรี” มาช่วยงานในช่วง 4 เดือนแรกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า

“เอาไว้หลังเลือกตั้ง ตอนนี้เป็น ครม.มู ก่อน ขอตัวขึ้นไปไหว้องค์นรสิงห์จำลองก่อนนะครับ”

หน้าแรก » การเมือง