การเมือง
"อภิสิทธิ์" แนะรัฐบาลเดินหน้าเชิงรุกแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ชี้ประชามติยกเลิก MOU ส่อปัญหา เหตุไร้ยุทธศาสตร์รองรับ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายความมั่นคงกรณีชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งกำลังเป็นประเด็นทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า แม้กองทัพจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีและได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่ปัญหาความมั่นคงชายแดนไม่สามารถแก้ได้ด้วยกำลังทหารเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่กับการทูตและนโยบายต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือที่ยั่งยืน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลคือทิศทางของรัฐบาลที่ยังขาดความชัดเจน เนื่องจากนำเรื่องข้อตกลงชายแดนไปผูกกับการจัดทำประชามติ ทั้งที่ควรมีการทำงานเชิงรุกมากกว่านี้
“หลายคนคงจำได้ วันที่ผมไปรับประทานอาหารกับท่านนายกฯ ผมได้ฝากไว้ว่า ต้องระมัดระวัง เพราะกัมพูชาใช้ทุกเวทีระหว่างประเทศ เราไม่ควรตั้งรับอย่างเดียว แต่ควรเดินเกมเชิงรุกให้มากขึ้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว พร้อมระบุว่า การรุกในเชิงการทูตจะช่วยให้กองทัพปฏิบัติหน้าที่ได้ง่ายขึ้น และลดแรงกดดันจากต่างประเทศ
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในอดีตไทยมักเลือก “ตั้งรับ” เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไทยควรแสดงบทบาทเชิงรุกมากขึ้น เพราะมีศักยภาพที่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางในภูมิภาคได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดของรัฐบาลที่เตรียมทำประชามติยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2548 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แม้เป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาแล้ว แต่ยังมีข้อกังวลหลายประการ โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่อาจไม่เพียงพอและสุ่มเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดของประชาชน
“การทำประชามติเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นข้อตกลงที่ซับซ้อน หากเราเปิดข้อมูลให้ประชาชนรับรู้เพื่อใช้ตัดสินใจ ก็เท่ากับว่ากัมพูชาจะรู้พร้อมกัน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา”
นายอภิสิทธิ์กล่าว
เขาย้ำว่า หากรัฐบาลยังเดินหน้าทำประชามติ ต้องชี้ให้ชัดว่า หากยกเลิก MOU แล้ว ประเทศไทยจะเดินหน้าต่ออย่างไร ต้องมี “ยุทธศาสตร์รองรับ” เพื่อให้ประชาชนเข้าใจทางเลือกที่แท้จริงก่อนตัดสินใจ
“ไม่ใช่แค่บอกว่าจะยกเลิก แต่ต้องตอบได้ว่าหลังยกเลิกแล้วจะทำอะไรต่อ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน”
นายอภิสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
เร่งจัดทัพ "ปชป." เป็นตัวเลือกใหม่ให้ประชาชน ยันทำนโยบายดันเศรษฐกิจโต-แก้ปัญหาประชาชน
นายอภิสิทธิ์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่ได้รับเลือกเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เราต้องรอการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนทำงานอย่างเป็นทางการ แต่ในการประชุมวันนี้ (20 ต.ค.) ได้มีการปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าเรามีเวลาน้อยมาก สำหรับเรื่องหลักที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือ 1.นโยบาย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ คือ 1.ต้องสร้างความหวังให้ประชาชนให้ได้ หัวใจหลักของนโยบายของพรรคนั้น เรายืนยันว่ามีสิ่งดีๆ และความคิดดีๆ มากมาย แต่วันนี้ประเทศไทยจะยังทำไม่ได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่โต เพราะเศรษฐกิจไทยติดหล่มมานานแล้ว เพราะฉะนั้น แนวคิดที่เราจะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงการยกเครื่องภาคการเกษตร การทำให้เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำ ลดการผูกขาด จะเป็นเรื่องที่เราต้องเร่งผลักดัน โดยได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเราตั้งโจทย์ให้กับผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้ว่าประเทศไทยต้องการอะไรจากการเมือง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า 2.การเตรียมตัวผู้สมัคร ซึ่งขณะนี้ มีความไม่แน่นอนทางการเมือง และต้องทํางานแข่งขันกับเวลา โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเคร่งครัดเรื่องการทำตามกฎระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจะต้องมีการประชุมเลือกประธาน รวมถึงทำงานกับรองหัวหน้าพรรค แต่ละภาค และบรรดาสาขาตัวแทนจังหวัดของพรรคทันที
“ผมใช้เวลาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พูดคุยกับบุคลากรของพรรคเยอะ มีสส.หลายท่านที่ให้การสนับสนุนผมเมื่อวันเสาร์ พูดกับผมมาก่อนวันเสาร์แล้วว่า ท่านอาจไม่ได้ร่วมงานกับผมต่อ ซึ่งผมก็เข้าใจข้อเท็จจริงทางการเมือง แต่เราต้องพยายามให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเรามาตั้งต้นกันใหม่วันนี้ ก็พยายามพูดคุย เพราะอยากจะรักษาบุคลากรทางการเมืองของเราทุกคน แต่ธรรมชาติของการเมือง เมื่อมีการไปพูดคุยเจรจาอะไรกัน ผมเข้าใจได้ เพราะผมก็ทำงานการเมืองแบบสุภาพบุรุษ เข้าใจดีว่าบางทีใครไปตกลงอะไรไว้ เราเห็นใจ เข้าใจเขา แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรค เราคิดเพียงอย่างเดียวว่าเราจะนำเสนอทางเลือกดีที่สุด ให้กับประชาชน ทั้งนโยบายและบุคลากร ท่ามกลางข้อจำกัดด้านเวลา”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีทาบทามบุคคลอื่นมาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม การสร้างความเป็นธรรม และการเมือง เช่น สิ่งที่ฉุดรั้งบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะเรามีการคอร์รัปชั่นมาก จึงทำให้มีกฎเกณฑ์มากตามมา ส่งผลให้ธุรกิจเดินไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จึงจะต้องเป็นสิ่งที่เราร้อยเรียงกันทั้งหมด เศรษฐกิจไทยจะโตไม่ได้ ถ้าเราไม่สามารถเพิ่มพูนทักษะให้กับคนปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่เศรษฐกิจจะโตโด้ การเมืองก็ต้องดี การศึกษา และมิติอื่นๆ ก็ต้องดีด้วย
เมื่อถามว่าการกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการให้ความหวังหรือเป็นตัวเลือกใหม่แก่ประชาชนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นั่นคือหน้าที่ของพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่ตนรู้สึกเสียดายว่า ในช่วงหลัง นักการเมืองเหมือนอยู่กันคนละโลกกับประชาชน เพราะข่าวการเมืองที่เราเห็นทุกวันนี้ ดูแล้วไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับประชาชน ตนจึงต้องการทำให้การเมืองเป็นเรื่องการแก้ปัญหาให้ประชาชนจริงๆ และอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนว่าเราให้มาคุยกันเรื่องที่เป็นปัญหาของประชาชนซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตเขาจริงๆ นี่คือหน้าที่ของพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องการมาเล่นเกมต่อรองหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนจะมีการสรรหาผู้ลงสมัครได้มีการตั้งเป้าหมายหรือคาดหวังการเลือกตั้งข้างหน้าอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากได้เก้าอี้ให้มากที่สุด เมื่อถามต่อว่าประเมินเป้าหมายพื้นที่ใดเป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของทุกคนทั้งประเทศ ส่วนจะส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตหรือไม่ คงต้องขอดูประเมินจากความเป็นจริง เพราะเราต้องทำงานแข่งขันกับเวลา และต้องเร่งอุดช่องว่างในพื้นที่ที่มีสส.หลายคนอาจจะไม่ทำงานกับพรรคต่อไป
“ผมบอกกับทุกคนว่าผมเห็นคุณค่าของบุคลากร ใครที่ร่วมงานกับประชาธิปัตย์มา ผมก็ยินดีที่จะทำงานด้วยต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเขาด้วย ว่าแนวทางที่ผมทำกับสิ่งที่เขาตั้งใจ มันสอดคล้องกันทั้งหมดหรือไม่อย่างไร เราต้องเคารพการตัดสินใจของกันและกัน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามีสส.ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปนั้น มีมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะ เมื่อถามอีกว่าหรือว่าไปหมดเลย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไปไม่หมด ที่ผ่านมาตนพยายามพูดคุยกับทุกคนตลอด แต่เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในการเมืองมาระยะหนึ่งแล้ว คงไม่ทราบข้อมูลทั้งหมดเพียงแต่บอกถึงความตั้งใจ และอยากให้เข้าใจในสิ่งที่ตนพยายามกลับเข้ามาทำมันคืออะไร หากคิดว่าเป็นสิ่งที่เขาอยากจะสนับสนุน ตนก็กล่าวเชิญชวนเขาอยู่ต่อ แต่หลายคนขอใช้คำว่าการพูดคุยมันลึกไปแล้ว เราต้องยอมรับว่ามันเกิดสิ่งนั้นก่อนที่จะมีการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาความขัดแย้งในจ.ตรัง จากกรณีที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตสส.ตรัง ได้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ซึ่งอาจทำให้นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตสส.ตรัง ที่เคยประกาศตัวอยู่ตรงข้ามกับนายสาทิตย์ อาจจะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินมาอย่างนั้น แต่จากที่ได้คุยกับ สส.และนายสาทิตย์ ที่บอกว่าคนนั้นคนนี้เหตุมันคืออะไร ตนเพียงแต่บอกว่าตนมาสลายเหตุแล้วกัน และดูว่าจะไปด้วยกันได้หรือไม่อย่างไร อย่างที่บอกตนกลับมาต้องการรักษาทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับเขาจะตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามว่าคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดเก่าเคยข้ามขั้วไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ทิศทางพรรคประชาธิปัตย์ครั้งหน้าจะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ารอดูท่าที จุดยืน และการกระทำของแต่ละพรรคก่อนดีกว่า แต่ตนว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าตนยึดถืออุดมการณ์และสัจจะเป็นสำคัญ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- “วรภัค” รมช.คลัง ประกาศลาออก ไม่ให้เป็นภาระรัฐบาล ยืนยันไม่เกี่ยวข้องสแกมเมอร์กัมพูชา 22 ต.ค. 2568
- "แพทองธาร" แจงลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต่อที่ประชุม สส.-กก.บห. 22 ต.ค. 2568
- “วราวุธ” โต้ข่าวลือย้ายเข้าเพื่อไทย หลัง "อุ้งอิ้ง" ลาออก ลั่น “ผมยังเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา” 22 ต.ค. 2568
- รัฐสภาโลก IPU หนุนญัตติไทย ดัน “สแกมเมอร์–อาชญากรรมองค์กร” เป็นวาระเร่งด่วน โหวตเห็นชอบเกินสองในสาม ขณะกัมพูชาไม่ร่วมลงคะแนน 22 ต.ค. 2568
- "อนุทิน" ยันไม่มีใครกดดัน "วรภัค" ลาออก ถือเป็นการแสดงสปิริต เชื่อไม่กระทบความเชื่อมันรัฐบาล หลังถูกปูดเอี่ยวสแกมเมอร์ 22 ต.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
โฆษกรัฐบาลยันไทยไม่มีปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร หากกัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลงปราบสแกมเมอร์และข้อตกลงที่เหลือ 21:21 น.
- "ดร.มหานิยม" รับพรจาก "เจ้าคุณสุธรรม สุธัมโม" ขอให้ส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนาต่อไปและชนะเลือกตั้งสส. 19:47 น.
- "อภิสิทธิ์" คืนจอการเมือง ย้ำภารกิจฟื้นอุดมการณ์ "ซื่อสัตย์สุจริต" อัดประชานิยมแบกหนี้ชาติ เปรียบ สส.ย้ายพรรคเหมือนกองหน้าค่าตัวแพงแต่ยิงไม่ได้ 19:13 น.
- "มงคลกิตติ์" ยินดี "อภิสิทธิ์" คัมแบล็คหัวหน้าปชป. เตรียมหารือ "เฉลิมชัย" วางเส้นทางการเมืองตัวเอง 18:15 น.
- "ดร.มหานิยม-คุณน้ำผึ้ง-ประธานดอกบัวคู่" ร่วมทอดกฐินวัดป่าโคกกลางเต่างอย 17:42 น.