วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:37 น.

การเมือง

"แพทองธาร" แจงลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต่อที่ประชุม สส.-กก.บห. 

วันพุธ ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.14 น.

เมื่อวันที่ 22  ตุลาคม 2568  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยแจ้งลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคความว่า 


 เรียน เพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผู้สนับสนุนพรรค และพี่น้องประชาชนทุกคน

วันนี้ดิฉันตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยความตั้งใจว่าเป็นการเริ่มต้นยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ตามที่ดิฉันประกาศไว้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ กล้าหาญในการเปลี่ยนแปลง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคที่สังคมโลกเปราะบาง ซับซ้อน อ่อนไหว คาดเดาได้ยาก ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่สุดในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศจึงจำเป็นต้องยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการ และวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พรรคสามารถชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป

ดิฉันเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด ดิฉันจึงเลือกการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ และสร้างพรรคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ

แม้ดิฉันลาออกในวันนี้ แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และจะร่วมกับพวกเราทุกคน สร้างพรรคเพื่อไทยยุคใหม่ ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างประชาชน และทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติที่รักของเราทุกคน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
22 ตุลาคม 2568

บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย มีการเรียกประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เพื่อแจ้งถึงการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของน.ส.แพทองธาร  โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีแกนนำพรรค อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และ สส. ทยอยเดินทางเข้าร่วมการประชุม ซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามวาระปกติ

ขณะที่น.ส.แพทองธาร เดินทางเข้าพรรคในเวลา 08.35 น. พร้อมยิ้มทักทายสื่อมวลชน

"วิสุทธิ์"  บอก "อิ๊งค์" แค่ลาออกจากหัวหน้าไม่ได้ทิ้งพรรค 

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารพรรค และสส. เพื่อแจ้งการลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ว่า เรื่องหัวหน้าพรรคที่จะลาออกสื่อก็ทราบกันดีอยู่แล้ว วันนี้ สส.จะมาประชุมกัน

เมื่อถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะเป็นเรื่องของความกังวลที่จะต้องมีการเซ็นรับรองผู้สมัคร สส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ได้พูดชัดเจน ตั้งแต่วันเปิดตัวผู้สมัคร สส.เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าต้องการให้พรรคเดินหน้า และมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อให้พรรคได้มีการเปลี่ยนผู้บริหาร รวมทั้งมีการปรับปรุงทุกอย่าง ตั้งแต่กรรมการสรรหา ทีมที่ช่วยปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครทุกคน น.ส.แพทองธาร ต้องการให้เป็นรูปแบบคณะกรรมการ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันจะรักษาการไปก่อน และจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายในเดือนหน้า ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวล เพราะเป็นความตั้งใจของ น.ส.แพทองธารมานานแล้ว เมื่อวันที่ 21 ต.ค. จึงได้ตัดสินใจว่าจะลาออกในวันนี้ ซึ่งเหมาะสมที่สุด จะมีการชี้แจงที่มาที่ไป จะได้ทำความเข้าใจว่า น.ส.แพทองธาร ยังอยู่เพื่อไทยเหมือนเดิมไม่ได้ทิ้งพรรคไปไหน

เมื่อถามว่า ข้อบังคับพรรคไปสอดคล้องหรือขัดแย้งกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีคลิปเสียงอย่างไรถึงกังวลเรื่องนี้ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกคนบอกสารพัดบางคนก็นึกไปเองว่าคนนั้นมาบีบ คนนี้มาบีบ ไม่มีใครบีบ น.ส.แพทองธาร เพราะมีความตั้งใจว่าต้องการให้พรรคเดินหน้า และสนับสนุนการทำงานของพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวล

เมื่อถามว่า ข้อบังคับพรรคไม่ได้ห้ามเรื่องมาตรฐานจริยธรรมใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ห้าม ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ ก็คิดว่าเพื่อไม่ให้ใครมีปัญหา หรือไปร้องเรียนอะไร รวมถึงคนที่ปรารถนาดีต่อพรรคก็ไม่อยากให้เป็นข้อกังวลในการทำหน้าที่ของหัวหน้าพรรค

เมื่อถามว่า เป็นเพราะเหตุผลที่มีการประเมินว่าจะยุบสภาก่อนครบ 4 เดือนหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นการเตรียมความพร้อมมากกว่าในการสรรหาผู้สมัคร และทำหน้าที่ทางการเมือง เพราะต่อจากนี้ไปสมาชิกพรรคจะออกไปปราศรัย พบปะและรับฟังความคิดเห็นประชาชนว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องการให้ทำอะไร เราเชื่อมั่นใจว่าพรรคจะเดินหน้าได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ยืนยันใช่หรือไม่ว่าครอบครัวชินวัตรยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยต่อไป นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า แน่นอนว่ายังอยู่ และอยู่เบื้องหลังเพื่อที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้วก็ยังทำงานในฐานะสมาชิกพรรค และเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่แล้วหรือยัง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยัง ตอนนี้ให้รักษาการก่อน ส่วนเรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่กรรมการบริหารพรรค และสส.พรรคจะต้องพิจารณาร่วมกันเพื่อเป็นมติของพรรค

เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าหาก น.ส.แพทองธารไปอยู่ข้างหลังจะกระทบกับจิตใจ สส. จะทำให้เกิดการไหลออกอีกหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่ไหลออกก็ไหลออกไปหมดแล้ว ไปเพราะอะไรสื่อก็รู้ดีอยู่ ซึ่งวันนี้คนที่เข้ามาใหม่ก็เยอะแยะ บางเขตก็มีคนมาแสดงตัวเป็นผู้สมัคร 4-5 คน ซึ่งก็อยู่ในการพิจารณาคัดเลือกของพรรค ไม่มีความกังวลอะไร คนที่ออกไปตนเองก็เข้าใจ เพราะผิดพลาดในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็อยากจะลงอีกแต่เราต้องมาดูว่าอายุ 70-80 แล้ว ก็ไม่สามารถส่งไปเดินในพื้นที่ได้ เราก็มีการ พิจารณาคนรุ่นใหม่เข้ามา

 เปิด 4 ขั้น เลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ แทน "แพทองธาร" 
 
ตามรายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่ น.ส.แพทองธาร ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ให้ น.ส.แพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะขาดคุณสมบัติฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนา

แม้ว่าตามข้อบังคับพรรคจะไม่ได้มีการกำหนดไว้ แต่ในการเลือกตั้ง สส. หัวหน้าพรรคจะต้องไปเซ็นรับรองผู้สมัคร จึงทำให้ในอนาคตอาจจะมีผู้ไปร้องต่อศาลหรือองค์กรต่าง ๆ ได้ ซึ่งหากมีผู้ไปร้อง ผู้สมัครของเราก็จะไม่สามารถสมัครได้ จึงถือเป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายต่อพรรคในอนาคต

ก่อนหน้านี้ "นายสมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง เคยตั้งคำถามถึงคุณสมบัติการเป็น "หัวหน้าพรรค" ของ "น.ส.แพทองธาร" ว่าขัดต่อข้อบังคับพรรคและกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่

โดย "นายสมชัย" ระบุว่า "น.ส.แพทองธาร" ผิดจริยธรรมร้ายแรงแล้วขาดคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่

1.ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 48 วรรคท้าย เขียนว่า คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการบริหารพรรค ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

2.พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 15 ระบุว่าข้อบังคับพรรคการเมือง ต้องมีรายการ ดังนี้ (11) มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิก โดยมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคอย่างน้อยต้องเทียบเคียงได้กับมาตรฐานทางจริยธรรมที่ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

3.มาตรฐานทางจริยธรรม ที่ใช้กับ สส. ในหมวดที่ 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ หากผิดถือว่า ร้ายแรง ในข้อ 6 ข้อ 7 และ ข้อ 8 คือ สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าผิด

พรรคเพื่อไทย ต้องจัดประชุมใหญ่ ภายใน 60 วัน เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และกรรมการบริหารชุดใหม่

นายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต. ต้องทำหนังสือแจ้งแก่พรรคเพื่อไทยให้ดำเนินการด้วย หาก กกต. ไม่ทำหนังสือแจ้ง ก็ถือเป็นความผิด ม. 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ไม่แปลกที่ "น.ส.แพทองธาร" เลือกตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

อย่างไรก็ตาม การเลือกหัวหน้าพรรค-กรรมการบริหารพรรคคนใหม่ของพรรคเพื่อไทย ต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วัน ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อที่ 51 (2)

โดยเบื้องต้น ในกรณีที่คณะกรรมการบริหารทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง เพราะหัวหน้าพรรคพ้นจากตำแหน่งด้วยการลาออก ให้รองหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการบริหารในขณะนั้นรักษาการในตำแหน่ง หัวหน้าพรรค ในกรณีที่มิได้กำหนดรองประธานคณะกรรมการบริหารไว้ ให้คณะกรรมการบริหารเลือกกรรมการบริหารคนใดคนหนึ่งรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปก่อนจนกว่าที่ประชุมใหญ่จะได้เลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ได้เข้ารับหน้าที่แล้ว

ขณะที่ข้อบังคับพรรค ข้อที่ 48 กำหนดการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 4 ขั้นตอน

ขั้นที่ 1 ให้เลือกหัวหน้าพรรคก่อนโดยให้สมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุม ซึ่งต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน

ขั้นที่ 2 เมื่อเลือกหัวหน้าพรรคได้แล้วให้เลือกรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค นายทะเบียนสมาชิกพรรค โฆษกพรรค และกรรมการบริหารอื่น ๆ

ขั้นที่ 3 การเลือกบุคคลตามข้อ 2 ให้หัวหน้าพรรคที่เพิ่งได้รับเลือกตาม ข้อ 1 หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเสนอชื่อต่อที่ประชุมเพื่อลงมติในการเสนอชื่อจะต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมรับรองไม่น้อยกว่าสิบคน ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมในการเสนอชื่อบุคคลอื่นต่อที่ประชุม

ขั้นที่ 4 ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค รองเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารอื่น ๆ ให้มีจำนวนตามที่ที่ประชุมใหญ่กำหนดทั้งนี้เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินจำนวนตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่งมติของที่ประชุมที่ให้ความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำโดยการลงคะแนนลับและให้ผู้ได้รับคะแนนมากที่สุดเป็นผู้ได้รับเลือก ในกรณีมีคะแนนเสียงเท่ากันให้ใช้วิธีจับฉลาก

ให้หัวหน้าพรรคเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร รองหัวหน้าพรรคที่หัวหน้าพรรคกำหนดเป็นรองประธานคณะกรรมการบริหาร และเลขาธิการพรรคเป็นเลขานุการคณะกรรมการบริหารเลขาธิการพรรคอาจแต่งตั้งให้รองเลขาธิการพรรคคนใดคนหนึ่งเป็นรองเลขานุการคณะกรรมการบริหารก็ได้คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการบริหารพรรคให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง