วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 06:46 น.

อสังหา

“บ้านเดี่ยวเครือเอพี” โตแรง ขึ้นแท่นผู้นำตลาด หลังสร้างนิวไฮ รับรู้รายได้ปี 62 ขยับสู่หลักหมื่นล้าน

วันพุธ ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563, 12.51 น.
tags : เอพี

“บ้านเดี่ยวเครือเอพี” โตแรง ขึ้นแท่นผู้นำตลาด

หลังสร้างนิวไฮ รับรู้รายได้ปี 62 ขยับสู่หลักหมื่นล้าน

 

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ขยับขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดบ้านเดี่ยว ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดด้วยยอดขายรวมมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมเผยแผนบุกตลาดสู่การเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 ด้วยการเปิดตัวบ้านเดี่ยว 17 โครงการใหม่ มูลค่า 20,050 ล้านบาท ภายใต้พันธกิจใหญ่ขององค์กร ‘AP EMPOWER LIVING’ ที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเติมเต็มการชีวิตได้ตามที่ปรารถนา ผ่านการผนึกบ้านนวัตกรรมที่เข้าใจทุกชีวิต (Hybrid Living 2020) เข้ากับการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์คนเฉพาะกลุ่ม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า “สินค้าบ้านเดี่ยวเครือเอพีได้รับการตอบรับและความไว้วางใจที่ดีอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ครอบครัวเมือง โดยล่าสุดกับความสำเร็จในปี 2562 ที่สามารถสร้างท็อปฟอร์มรับรู้รายได้สินค้าบ้านเดี่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ขยับขึ้นสู่หลัก 10,000 ล้านบาท ก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองที่ครองส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ด้วยยอดขายรวมสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีในทุกตลาดที่เราโฟกัส ได้แก่ แบรนด์ “THE PALAZZO” คฤหาสน์หรูโมเดลใหม่ในเซ็กเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ที่มาพร้อมสุนทรียะในการอยู่อาศัยระดับราคาขาย 35-60 ล้านบาท แบรนด์ “THE CITY” บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ในเซ็กเมนต์ไฮเอนด์ระดับราคาขาย 11-30 ล้านบาท และโดยเฉพาะ แบรนด์ “CENTRO” บ้านเดี่ยวสองชั้นดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซ็กเมนต์กลางบน ระดับราคาขาย 5-10 ล้านบาท ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างตรงจุดจนสามารถได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า จนเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างการเติบโตด้านยอดขายได้โดดเด่นที่สุดในกลุ่มสินค้าราคาเดียวกันในปีที่ผ่านมา”

 

 

และเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีพร้อมเดินหน้าสู่พันธกิจใหญ่ ‘เอพี เอ็มพาวเวอร์ ลิฟวิ่ง (AP EMPOWER LIVING)’ สนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตได้ตามที่ปรารถนา พร้อมเดินหน้ารุกตลาดด้วยแผนเปิดสินค้าบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 17 โครงการ มูลค่ารวม 20,050 ล้านบาท โดยแบ่งเปิดในครึ่งปีแรกจำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,105 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการเปิดตัวที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 90% ผ่านการพัฒนาและส่งมอบโครงการบ้านเดี่ยว ภายใต้การพัฒนาและออกแบบเพื่อให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของดีมานด์ในแต่ละพื้นที่ ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก เช่น

Hybrid Living 2020 - บ้านนวัตกรรมที่เข้าใจทุกชีวิต ชูจุดเด่นโดยตั้งต้นจากอินไซต์การใช้ชีวิตจริงของลูกค้าบ้านเดี่ยวที่มีทั้งไลฟ์สไตล์และช่วงวัยที่เฉพาะตัวในแต่ละทำเล และนำนวัตกรรมเหล่านั้นมาเชื่อมต่อในทั้งพื้นที่ส่วนกลางเพื่ออำนวยประโยชน์และความสะดวกสูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัย และการผสมผสานนวัตกรรมเพื่อชีวิตเข้าสู่สเปซต่างๆ ภายในตัวบ้านเพื่อให้มั่นใจว่าทุกๆ สเปซในบ้านเดี่ยวเครือเอพีพร้อม เอ็มพาวเวอร์สู่การเติมเต็มทุกๆ เป้าหมายชีวิตได้ตามที่ปรารถนาอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นใน 4 มิติหลัก ได้แก่ 1. Security – ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะภายในบ้าน เช่น ระบบเซ็นเซอร์ประตู หน้าต่าง เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ระบบ Digital Door Lock และปุ่มเรียกฉุกเฉินในยามคับขัน 2. Comfort – ระบบสั่งการอัจฉริยะภายในบ้านผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมโดยแอพพลิเคชั่น เช่น ระบบควบคุมไฟแสงสว่าง ระบบพัดลม Air Flow ระบบควบคุมเครื่องกรองอากาศอัจฉริยะ ระบบตั้งเวลา Sprinkle รดน้ำต้นไม้อัจฉริยะ 3. Cost Saving – เทคโนโลยีตอบรับเทรนด์รักษ์โลก กับคลับเฮาส์พลังงานแสงอาทิตย์ และเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ในการรดน้ำต้นไม้ในโครงการ ช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้ลูกบ้าน 4. Community – นวัตกรรมดีไซน์แห่งคุณภาพชีวิต ที่ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยของเอพี เป็นชุมชนแห่งความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการสื่อสารผ่าน Katsan Platform ที่ทำหน้าที่แจ้งเตือนมายังมือถือ เมื่อมีแขกมาเยือน และคัดกรองรถต้องสงสัยพร้อมติดตามความเคลื่อนไหว

 

Dynamic Personalized Model การออกแบบและพัฒนาโครงการที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) ที่แตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเล ที่ไม่ได้มองแค่ demographics หรือ segment ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง แต่เป็นการศึกษาอย่างลึกซึ้งผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เพื่อค้นหาความต้องการแฝงที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าในแต่ละย่าน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่มีความคุ้มค่าทั้งเชิงสเปซฟังก์ชั่นภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมการบริหารแพ็คเกจราคาขายที่โดนใจตลาดตรงกับที่ลูกค้ามองหา 

“ถึงแม้สถานการณ์โดยรวมตั้งแต่ต้นปีจะมีความท้าทายที่อยู่นอกเหนือการควบคุม แต่บริษัทมีความมั่นใจว่าดีมานด์ที่มองหาบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ และโครงการใหม่ๆ ยังมีอยู่ต่อเนื่อง การันตีจากจำนวนลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการบ้านเดี่ยวเครือเอพีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 280 ครั้ง / สัปดาห์ โดยเฉพาะการตอบรับอย่างดีในช่วงของการเปิดพรีเซลบ้านเดี่ยว 4 โครงการใหม่ล่าสุด ที่สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 460 ล้านบาทในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แก่ (1) CENTRO บางนา – กิ่งแก้ว มูลค่า 1,930 ล้านบาท แบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น ที่ลงตัวและการออกแบบภายใต้นวัตกรรมที่เข้าใจชีวิต ตั้งอยู่บนขนาดที่ดิน 61 ไร่ จำนวน 294 หลัง เพียง 10 นาที จากสุวรรณภูมิและเมกาบางนา เริ่มต้น 7.5 - 12 ล้านบาท(2) CENTRO ชัยพฤกษ์ 345 มูลค่า 870 ล้านบาท บนทำเลที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 33 ไร่ จำนวน 161 หลัง 10 นาที ถึงทางด่วนศรีรัช และอุดรรัถยา เริ่มต้น 5.59 - 8 ล้านบาท (3) THE CITY สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ มูลค่า 1,165 ล้านบาท บ้านเดี่ยวซีรีย์ล่าสุด ในทำเลติดสะพานมหาเจษฏาบดินทร์ฯ 20 นาทีถึงจตุจักร และใกล้รถไฟฟ้าสถานีไทรม้าเพียง 5 นาที ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 27 ไร่ จำนวน 76 หลัง เริ่มต้น 15.9 - 25.9 ล้านบาท และ (4) THE CITY สุขสวัสดิ์ 64 บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิต เพียง 20 นาทีจากสาทร มูลค่า 1,240 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 30 ไร่ จำนวน 116 หลัง เริ่มต้น 9 – 20 ล้านบาท” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

 

“ส่งผลให้เอพีสามารถกวาดยอดขายรวมแนวราบ (ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563) ได้แล้วกว่า 3,780 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลงานที่สะท้อนดีมานด์ตลาดและความมั่นใจลูกค้าครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ และความมั่นใจต่อสินค้าเครือเอพีได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าทั้ง 2 กลยุทธ์ที่เราจะนำมาใช้ในปีนี้ จะสะท้อน ไปยังสินค้าและบริการที่พร้อมเอ็มพาวเวอร์ทุกมิติของชีวิต และทำให้เอพีสามารถรักษาการเติบโตและความเป็นเบอร์ 1 ผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวได้อย่างยั่งยืน” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวสรุป