แซบมันส์นัว2สามีภรรยา
ปิ้งหนูนาอบโอ่งขายรายได้ดี

 
หนูอร่อยนะ พี่ไหวเหรอ! อาหารอีสานฟิวชั่นริมทางแปลกใหม่ เจ้าแรกริมถนนมิตรภาพอุดร – หนองคาย หนูอบโอ่งอร่อยนายกฯ รับประกัน เจ้าของสองสามีภรรยาเผยกลับจากเมืองนอกมาเลี้ยงหนู รายได้ดีกำไรงาม ทำครบวงจรจำหน่ายทั้งพ่อ-แม่พันธุ์ ชำแหละแช่แข็ง และอบโอ่ง พร้อมยินดีส่งต่อความรู้ สู่ความรวย

 
วันนี้ (11 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพสายอุดรธานี-หนองคาย ช่วงกิโลเมตร 475 – 476 อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี  มีร้านขาย “หนูนาอบโอ่ง”  ซึ่งเป็นอาหารอีสานฟิวชั่นริมทางแปลกและใหม่ จึงจอดรถเข้าไปสอบถาม พบนายประทับ ไชยเสริม อายุ 39 ปี และ น.ส.อรอุมา พลทะอินทร์ อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 13 บ้านดอนยาง ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เจ้าของร้าน เปิดฝาโอ่งมังกรให้ดูภายใน พบหนูนาแขวนย่างกับปากโอ่ง ย่างด้วยเตาถ่านอังโล่ หนูตัวสีขาวกลายเป็นสีเหลือง ส่งกลิ่นหอมเครื่องปรุง สมุนไพรไทย ทำให้อยากลิ้มลองรสชาติ โดยมีผู้ขับรถผ่านไปมาจอดรถซื้อ และสอบถามราคาด้วยความสนใจ

 
นายประทับ เล่าว่า ก่อนมาทำหนูนาอบโอ่งขายตนสองคนผัวเมีย เดินทางไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน 10 ปี  โดยตนทำช่างสีรถยนต์ ส่วนภรรยาเป็นช่างเสริมสวย หลังเลิกงานตนกลับที่พักไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน จึงหันมาศึกษาการเลี้ยงหนูนาในยูทูป  ปลายปี 60 พวกตนก็กลับมาบ้านหอบเงินมาจำนวนหนึ่งลงทุนเปิดฟาร์มเลี้ยงหนูตอนแรกถูกหลอกเสียเงินทิ้งไปกว่า 8 หมื่นบาท แต่ก็ไม่ย่อท้อ นำเงินที่เก็บจากการทำงานที่ยังพอมีมาลงทุนอีกจนประสบความสำเร็จในการเลี้ยงหนูส่งเครือข่าย และตอนนี้มีหนูนามากกว่า 1,000 ตัว

 
เมื่อประสบความสำเร็จแล้วมีคนเข้ามาสอบถามจำนวนมากว่า เลี้ยงจำนวนมากจะเอาไปขายที่ไหนตนจึงมีแนวคิดที่จะแปรรูปหนูนาขายโดยสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยไม่ส่งขายให้เครือข่าย จึงนำหนูที่เลี้ยงไว้มาขายริมถนน และทางขายทางเน็ต มีทั้งหนูชำแหละแช่แข็ง และหนูอบโอ่ง มีลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดี มีรายได้เข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 20,000 ถึง 30,000 บาท และตอนนี้ติดปัญหาหนูโตไม่ทันที่จะทำเมนูหนูอบโอ่ง ซึ่งในจังหวัดอุดรธานีเมนูหนูอบโอ่งอบนี้ยังไม่มีใครทำ ถือว่าเมนูนี้เป็นตนเป็นเจ้าแรกที่เปิดในจังหวัดอุดรธานี

 
น.ส.อรอุมา บอกว่า พวกตนจะเลี้ยงดูแลหนูนาที่เลี้ยงเป็นอย่างดี ด้วยการอาหารที่ทำเอง ซึ่งส่วนผสมหลักจะเป็นปลายข้าวอ่อน ให้น้ำแบบท่อ เมื่ออายุได้ 3 เดือน ก็จะนำออกไปขาย ถ้าขายตัวเป็นๆ  ชั่งกิโลขาย ในราคาขีดละ 20 บาท จะตกตัวละ 5-8 ขีด หรือ 100-150 บาท  หากเป็นพ่อแม่พันธ์ ตนจะขายยกชุด โดย 1 ชุด จะมีตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 2 ตัว ราคา 1,000 บาท

 
ส่วนตัวแล้วหนูนาเลี้ยงกับหนูนาธรรมชาตินั้น ตนคิดว่าจะดีกว่าหนูนาลี้ยงจะดีกว่าเพราะหนูนาตามธรรมชาติเราไม่รู้หนูนาไปกินอะไรมาบ้าง ส่วนหนูนาเลี้ยงในฟาร์มจะถูกเลี้ยงและควบคุมโรคอย่างใกล้ชิดสำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ใหญ่ หนูนาฟาร์มอุดร หมายเลขโทรศัพท์ 09-2380-0265 ตนพร้อมที่จะสอนวิธีการเลี้ยงให้ทุกอย่างแบบไม่คิดเงิน

สำหรับวิธีทำหนูอบโอ่งนั้น เราจะเลือกหนูตัวใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 7 - 8 ขีด แล้วทำการเชือด ระหว่างนั้นจะต้มน้ำจนเดือด นำหนูที่ได้ลงไปลวกน้ำร้อนแล้วนำขึ้นมาถอนขนและล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปชำแหละผ่าครึ่งเอาของเสียออก ปรุงรสด้วยพริก กระเทียม พริกไทย เกลือ และผงปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากันทิ้งไวสักพักแล้วนำไปอบในโอ่งด้วยไฟอ่อนๆ ที่เตรียมไว้โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะสุกกรอบพอดี และก็รับประทานได้แล้ว มีรายได้จากการขายหนูอบโอ่งวันละ 800-1000 บาท ส่วนรสชาตินั้นขอยืนยันว่าอร่อยกว่าเนื้อหมู นอกจากจะอบโอ่งแล้วเรายังสามารถนำไปแกงอ่อม ย่าง แกงเผ็ด ผัดเผ็ด และลาบได้อีกด้วย นายอำนวย อินทรธิราช นายก อบต.นาพู่ ยืนยันว่า หนูรสชาติดีอร่อย เนื้อหนูจะเหมือนเนื้อไก่ ส่วนตัวจะชื่นชอบเมนูย่างมากกว่า แต่เมื่อลองชิมเมนูแล้วเมนูอบแล้วก็ถือว่ารสชาติดีไม่แพ้กันเนื้อหนูอบโอ่งเหมือนเนื้อหมูหันดีๆนี่เอง ใครจะลองชิ้มปิ้งหนูนาของสองสามีภรรยาสู้ชีวิตสามารถแวะไปอุดหนุนได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพสายอุดรธานี-หนองคายได้ตลอดเวลา รับรองแซบมันส์ นัว อร่อยจนต้องดูดนิ้ว