วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นจุดสตาร์ทการจัดมหกรรมเดิน วิ่ง ข้ามโขง ครั้งที่ 2  “นครพนม-คำม่วน” มาราธอน 2019  บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืน ทัพนักกีฬาที่ลงทะเบียนไว้ จำนวน  7,000 คน ทยอยเดินทางออกจากที่พักมาขึ้นรถยนต์ที่ทางผู้จัดเตรียมไว้ให้ โดยสนามแข่งขันในครั้งนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์กรีฑาเอเซีย [Asian Athletics Association -AAA] แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ประกอบไปด้วย ประเภท Marathon(มาราธอน) ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร Half Marathon(ฮาล์ฟมาราธอน) ระยะทาง 20.10 กิโลเมตร Mini Marathon(มินิมาราธอน) ระยะทาง 10 กิโลเมตร และประเภท Fun Run(ฟันรัน)  ระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งการปล่อยตัวเริ่มขึ้นในเวลา 04.00 น. เป็นรุ่นมาราธอน ตามด้วยรุ่นฮาล์ฟมาราธอนในเวลา 05.00 น.  และเรื่อยมาตามลำดับ

 

โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุข  รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2/ส.ส.นครพนม เขต 1 พร้อมด้วย พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว  สมาชิกวุฒิสภา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พลตรีสามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดฯ นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายเฉลิมชัย รุจิวรารัตน์ ททท.สำนักงานนครพนม นายภาสกร พุทธานุภากร ผอ.การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม นายคมสัน นิลยองตระกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ และคณะกรรมการจัดงานร่วมปล่อยตัว

 

ทั้งนี้มีกติกาว่าทุกประเภทการแข่งขันนักกีฬาทุกคน จะได้ข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ไปยังแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ก่อนจะเลี้ยวกลับมาเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันของแต่ละประเภท ที่เป็นการเดิน วิ่งเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งขาไปและกลับ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามและอากาศที่บริสุทธิ์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครพนม ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขง ลอดอุโมงค์นาคราช ผ่านวัดนักบุญอันนาหนองแสง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่าที่เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกได้รับอิทธิพลและรูปแบบการก่อสร้างจากฝรั่งเศสช่วงสมัยสงครามอินโดจีน หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันที่ชาวเวียดนามสร้างขึ้นไว้เป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับประเทศตามประธานโฮจิมินห์หลังชนะสงครามภายในประเทศ เมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู  และองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่เป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับองค์พญานาคที่คอยปกป้องคุ้มครองคนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม

 

โดยกิจกรรมเดิน วิ่งข้ามโขง ครั้งที่ 2 จังหวัดนครพนมร่วมกับมูลนิธิศรีโคตรบูรจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้มีการตื่นตัวในการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทุกคนได้มีประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอน ทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนมูลนิธิศรีโคตรบูรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน ประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้บกพร่องทางร่างกาย ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสนับสนุนโรงพยาบาลนครพนมในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์มาบริการประชาชน

 

ในการแข่งขันครั้งนี้ มีแพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร หรือหมอโหน่ง อายุ 28 ปี ตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการ โรงพยาบาลศรีสะเกษ เข้าร่วมพิสูจน์สมรรถภาพด้วย โดยหมอโหน่งเป็นบุลคลตัวอย่างของคนสู้ชีวิต เป็นเด็กบ้านนอกจากอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งครอบครัวมีฐานะยากจนมาก พ่อแม่มีอาชีพรับจ้างรายวัน โดยเฉพาะคุณพ่อทำงานหนักจนขาพิการ บางวันไม่มีเงินซื้อกับข้าวต้องกินข้าวกับเกลือ ไม่มีแม่รถจักรยานปั่นไปโรงเรียน ต้องเดินเท้าไปโรงเรียนระยะทาง 5 กิโลเมตรทุกวัน เธอใฝ่ฝันอยากเป็นหมอ เพราะต้องการช่วยเหลือคนไข้ยากไร้ ใช้วิธีอ่านหนังสือเก่าของรุ่นพี่ จนสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ่อแม่ต้องขายสวนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน จนได้รับทุนการศึกษาจากสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำเร็จแพทย์เกียรตินิยม รุ่นที่ 5 ปัจจุบันรับราชการที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ

 

หมอโหน่งใช้เวลาว่างวิ่งออกกำลังกายเสมอ และชื่นชอบกีฬาประเภทนี้อย่างมาก จึงลงแข่งขันวิ่งในสนามต่างๆ โดยปี 2561 กิจกรรมเดิน วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วน ครั้งที่ 1 ลงสมัครในรุ่น 21 กิโลเมตร และคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง เมื่อมีการจัดการแข่งขันเดิน วิ่งข้ามโขงครั้งที่ 2 จึงขยับมาอยู่รุ่นมาราธอน 42.195 กิโลเมตร และก็ไม่ผิดหวังหมอโหน่งคว้ารางวัลชนะเลิศไปได้ตามความคาดหมาย พร้อมเชิญชวนนักกีฬาทั่วประเทศมาร่วมแข่งขันวิ่งในจังหวัดนครพนม เพราะมีบรรยากาศดีบริสุทธิ์ สนามแข่งก็ได้มาตรฐาน ความหวังสูงสุดอยากไต่บันไดไปสู่นักวิ่งระดับโลก