ผู้ใหญ่บ้านถึงกับเศร้าแทนลูกบ้านโดนทนายความชื่อดัง ฟ้องและยึดบ้านและที่ดิน 14 ไร่ มูลค่า 4 ล้านบาท เพียงแค่ไปค้ำประกันมอเตอร์ไซค์ ยอดวงเงิน 80,000 บาท ถามถึงจรรยาบรรณวิชาชีพ หลังเจ้าของบริษัทระบุไม่ได้สั่งให้ยึดบ้านลูกค้า วอนเห็นใจชาวนา ให้ซื้อคืนในราคาเป็นธรรม

วันที่ 9 ม.ค.63 นายสมเที่ยง บุญสอน  อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านสายโท 2 ใต้ ได้ออกมาระบุกรณีที่นางวัฒนา คงงาม อายุ 56 ปี ลูกบ้าน ถูกทนายของบริษัทขายรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งฟ้องยึดที่ดินและบ้านรวมเนื้อที่ 14 ไร่ ฐานเป็นคนค้ำประกันรถจักรยายนต์ให้กับเพื่อนบ้าน ในมูลค่าความเสียหายของบริษัท 82,040 บาท และมีการขายทอดตลาด โดยทนายคนฟ้อง เป็นคนซื้อเอาที่เสียเอง ว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รุนแรงเกินกว่าชาวบ้านตาดำๆ จะรับได้ เพราะนอกจากทนาย จะฟ้องยึดทรัพย์แล้ว ยังมีการแจ้งความจับกุมเจ้าของบ้านฐานบุกรุก ให้ต้องรับโทษอีกทางหนึ่งด้วย

สิ่งที่ผิดสังเกตคือ คนเช่าซื้อรถหรือคู่สัญญากับบริษัท ยังมีตัวตน มีบ้านอยู่ แต่ไม่ฟ้อง กลับมาฟ้องคนค้ำประกัน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะมีการวางแผนเลือกฟ้องคนใดคนหนึ่ง ระหว่างคนเช่าซื้อกับคนค้ำประกัน ว่าคนใดมีหลักทรัพย์มากกว่า

นอกจากนี้ยังใช้ความรู้ในข้อกฎหมาย หลอกลวงผู้เสียหาย ไม่ให้คัดค้าน ไม่ให้ดำเนินการใดๆ โดยอ้างว่าจะช่วยเหลือ แล้วทำการเอาเองทั้งหมด โดยไม่มีความเห็นใจคนจน

การกระทำดังกล่าวถือว่าชาวบ้านตาดำๆ ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะทนายความ ที่ก่อนจะรับประกาศนียบัตร ก็ยังสาบดสานบาน ว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไป ทำเหมือนมีความตั้งใจจะเอาทรัพย์อย่างเดียว

 
เท่าที่ทราบ ทนายคนดัง ได้ประมูลเอาทรัพย์ไปเป็นจำนวนเงิน 340,000 บาท แต่ทางญาติจะขอซื้อคืนในราคา 500,000 บาท แต่กลับจะขายให้คืนในราคาสูงถึง 4 ล้านบาท ทั้งที่รู้ว่าอาชีพชาวนาทำไม่ได้ จึงอยากจะวิงวอนขอความเมตตา ให้ทนาย ซึ่งมีความรู้ด้านกฎหมาย เห็นใจขายคืนให้ชาวบ้านได้มีที่อยู่อาศัยต่อไป